บ้านผัดไทยอร่อยระดับมิชลินไกด์
เปรี้ยวปากพาไปเช็คอินร้านบ้านผัดไทยที่ฮอตที่สุดในตอนนี้ การันตีความอร่อย รางวัลบิบกูร์มองด์ จากมิชลินไกด์ 2018ต้องบอกเลยว่าผัดไทยที่นี้ เก๋ที่สุดอีกร้านที่เคยไปมาเพราะตกแต่งย้อนยุคเน้นสีฟ้าตัดกับงานไม้ที่สื่อถึงยุค80 และสดๆร้อนๆ กับรางวัลการันตีความอร่อย รางวัลบิบกูร์มองด์ จากมิชลินไกด์ 2018 ต้องขยายนิดนึงคือรางวัลนี้ทางมิชลินจะมอบให้ร้านอาหารที่เสิร์ฟอาหารคุณภาพดี คุ้มค่าคุ้มราคาที่ไม่เกิน 1,000 บาท ต่ออาหาร 3 คอร์ส ไม่รวมเครื่องดื่ม แม้แต่เชฟและร้านเองยังเซอร์ไพรส์เพราะไม่รู้ตัวมาก่อนว่าได้รับรางวัลจนมาเห็นชื่อร้านในไกด์บุค มาดูที่พระเอกของร้าน ผัดไทยปูม้า (280 บาท) เนื้อปูก้อนเน้นชิ้นโตผัดกับเส้นจันท์ ซึ่งความพิเศษจะใช้มันปูและไข่ปูผัดลงไป ส่วนตัวซอสผัดไทยก็จะประกอบด้วยน้ำมะขาม น้ำตาลปี๊ป และเครื่องปรุงอีกกว่า 18 อย่างผสมลงไปผัดไทยไก่ย่าง (190 บาท) ทางร้านอะแดปเป็นทางเลือกไม่จำเจ ซึ่งจะใช้ไก่ส่วนสะโพกนำไปหมักกับน้ำผึ้ง ย่างจนหอมเข้าเนื้อ ไก่ทอดสมุนไพร (190 บาท) งานออเดิร์ฟ เสิร์ฟมาในซุ้มไก่เล็กๆ เพื่อเป็นการสะท้อนถึงวิถีคนไทยในสมัยก่อน เมี่ยงคะน้า (150 บาท) ทางร้านจะใช้ใบคะน้าอ่อนออแกนิกส์ และเปลี่ยนจากใส่กุ้งแห้งมาเป็นไก่รวนซีอิ๊ว คนที่แพ้กุ้งทานได้ค่ะ และกรุบกรอบด้วยกากหมู
ถ่ายรูปชิคๆ เช็คอินที่ ‘ล้ง 1919’
ถ่ายรูปชิคๆ เช็คอินที่เที่ยว ‘ล้ง 1919’ มาแล้วค่ะคุณขาาาาาา สถานที่เที่ยวแห่งใหม่ในกรุงเทพมหานครของเรานี่เอง โครงการ “ล้ง 1919” (LHONG 1919) แหล่งท่องเที่ยวเชิง Heritage โดดเด่นด้วยศิลปะเชิงอนุรักษ์ที่บอกเล่าประวัติศาสตร์ไทยจีน ตั้งอยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีศาลเจ้าแม่หม่าโจ้ว สิ่งศักดิ์สิทธิ์และศูนย์รวมใจของชาวจีนในแผ่นดินไทยให้เราได้สัการะกัน ภายในพื้นที่แห่งนี้รวมร้านช้อปปิ้งจำหน่ายงานดีไซน์ งานฝีมือร่วมสมัยอย่างร้าน SAN สินค้าส่วนใหญ่ส่งออกญี่ปุ่น มีเสื้อผ้า กระเป๋า เฟอร์นิเจอร์เป็นสไตล์จีนแต่ดีไซน์อย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว หรือถ้าชอบงานฝีมือของคนรุ่นใหม่ ร้าน Room 5D เป็นการรวมตัวของ 5 ดีไซน์เนอร์รุ่นใหม่ที่สำคัญยังเป็นคนวาดภาพตามมุมต่างๆในล้งด้วย สินค้าแนะนำให้ช้อปติดมือกลับ รูมสเปรย์กลิ่นมะม่วง กลิ่นทุเรียนก็มี เกร๋ๆ ไหมล่ะ และยังมีของตกแต่งบ้านเครื่องประดับที่เป็นงานดีไซน์ บอกเลยว่ารุ่นใหม่แต่ฝีมือเฉียบจากนั้นเดินชมผลงานศิลปะทั้งอาคารไม้และภาพจิตรกรรมฝาผนัง มีร้านอาหารและเครื่องดื่มให้บริการอยู่หลากหลายร้าน อาทิ เพลินวานพาณิชย์ ลมโชย โรงสี ชอบสไตล์ไหนลองแวะเข้าไปเช็คอินกัน แต่สิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวอย่างเราก็คงจะเป็นภาพวาดฝาผนังที่ให้สายแชะได้ถ่ายรูปชิคชิค บอกเลยว่าแต่ละมุมเก๋ๆทั้งนั้นนนนน เสาร์-อาทิตย์นี้ใครว่างๆอย่าลืมมาเช็คอินกันนะ! อ่อ ช่วงเย็นยังมีร้านค้าสตรีทฟู้ดอร่อยๆในย่านนั้นมาออกร้านด้วย ช้อป ชิม ชิล เพลิน!!
ข้าวหมูแดงซอสเผ็ดในตำนาน ที่อำเภอปากช่อง
หากใครผ่านไปแถวปากช่อง อยากให้ลองร้าน "ข้าวหมูแดงสุพรรณ" ที่ไม่ได้อยู่จังหวัดสุพรรณแต่สูตรมาจากสุพรรณแท้ๆ มีมายาวนานเกือบ 50 ปี ทีเด็ดอยู่ที่น้ำซอสรสเผ็ดนิดๆ หอมเครื่องเทศ เข้มข้น จัดเต็มหมูเเดง หมูกรอบ ไข่ ในราคาเพียง 40 เท่านั้น!!! จานเด็ด "ข้าวหมูแดงรวม" (ธรรมดา 40 บาท / พิเศษ 50 บาท) ครบเครื่องทั้งหมูแดง หมูกรอบ กุนเชียง รวมถึงไข่ต้ม"เกาเหลาเลือดหมู" (ธรรมดา 40 บาท / พิเศษ 50 บาท) เครื่องแน่น เลือดชิ้นโต หมูสับ ตับ และจินจูไฉ่ มีสรรพคุณเป็นยาช่วยขับสารพิษในร่างกายหรือจะสั่ง "หมูกรอบ" ทำสดใหม่ทุกวันทอดจนหนังกรอบกรุบๆ หั่นชิ้นหนา ทานกับซีอิ๊วดำบอกเลยว่าฟิน
เมนูภูเก็ตพื้นบ้าน หร่อยแรงๆ ต้อง ร้านต้นมะยม
ใครที่มองหาอาหารรสจัด เผ็ดร้อนตามสไตล์อาหารใต้ ห้ามพลาดกับ "ร้านต้นมะยม" ร้านอาหารพื้นเมืองภูเก็ตแท้ๆ ราคาไม่แรง รสแซ่บถึงใจ เป็นร้านเล็กๆ อบอุ่นเหมือนนั่งกินข้าวอยู่ที่บ้าน เมนูเด็ด "ขนมจีนแกงไตปลา" (60 บาท/สำหรับ 2 ที่) เพิ่มความหอมด้วยปลาโอย่าง ความพิเศษอีกอย่างคือจะใส่มะละกอแขกดำที่เกือบสุกลงไปเพื่อให้ได้ความกลมกล่อมขึ้น "น้ำพริกปลาฉิ้งฉ้าง" (120-150 บาท) เป็นน้ำพริกกะปิ โรยหน้าด้วยปลาฉิ้งฉ้างทอดกรอบ "แกงจืดเต้าหู้ปลาเค็ม" (80 บาท) หอมปลาเค็มที่นำไปคั่วกับหมูสามชั้น "ปลาเจี๋ยน" (120-150 บาท) ความอร่อยของจานนี้อยู่ที่ปลาทอดมีความกรอบเข้าไปซึมในน้ำซีอิ๊ว "ผัดหมูเคยเค็ม" (150 บาท) จะใช้หมูเอี่ยมต้อ ที่อยู่ใต้อกตรงราวนมของหมู ซึ่งเป็นส่วนที่หายากมากและมีความอร่อยมาผัดกับเคยเค็มดอง "แกงปลามงใส่หยวกกล้วย" เมนูที่ไม่ค่อยจะได้ยินกัน สูตรเด็ดอยู่ที่การใส่ส้มแขกลงไปด้วยเพื่อให้รสชาติที่กลมกล่อมขึ้น สัมผัสของปลามงเนื้อจะไม่นิ่มจนเกินไปเวลาทาน
เปรี้ยวปาก เช็คอิน ฉลองยิ่งใหญ่ 14 ปี ! จัดงาน ‘Preawpak Festival 2018’
เปรี้ยวปาก เช็คอิน ฉลองยิ่งใหญ่ 14 ปี! จัดงาน ‘Preawpak Festival 2018’ ขนทัพร้านอร่อยตามรอยเปรี้ยวปาก มากกว่า 50 ร้านค้า อาทิ ร้านตะบันตำ ร้านติ่งเกาหลี ร้านฮิตติดเทรนด์ CHUB N’ CHEW รวมถึงร้านศิลปินดาราเพียบ นำทัพโดยสองพิธีกรคู่ซี้ จอย รินลณี และ เต๋อ ฉันทวิชช์ กิน ช็อป ชิลล์ และพบกับคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง อาทิ เอิ๊ต ภัทรวี อิ้งค์ วรันธร แหนม รณเดช! งานนี้มีรางวัลให้ลุ้นกันด้วยนะจ๊ะ ห้ามพลาด !! แล้วพบกัน วันศุกร์ที่ 25 พฤษภาคม 2561 – วันอาทิตย์ ที่ 27 พฤษภาคม 2561 เวลา 11.00 – 22.00 น. ณ ลานเซ็นทรัลเวิลด์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ * ไม่ต้องไปหลายที่ก็ได้กิน เพราะเปรี้ยวปาก รวบรวมมาให้คุณไว้ที่นี่แล้ว
OneDayTripLamphun แอ่วเมืองหละปูน l กินก๋วยเตี๋ยวลำไย l ไหว้พระธาติหริภุญชัย
ตามเปรี้ยวปากมาสัมผัสมนต์เสน่ห์ของเมืองลำพูนกัน เอาฤกษ์เอาชัยด้วยการสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้าน คู่เมือง “พระธาตุหริภุญชัย” อีกหนึ่งปูชณียสถานที่สำคัญของจังหวัดลำพูนเลยเพราะเป็น 1 ใน 8 จอมเจดีย์ ของประเทศไทย เป็นเจดีย์ทรงล้านนาแท้ๆ ที่มีอายุเก่าแก่กว่า 1 พันปี เขาว่ากันว่าถ้าคนเกิดปีระกาได้มาสักการะบูชา ชีวิตจะเจริญรุ่งเรืองนักแลนั่งรถชมเมือง แล้วมาต่อที่ "อนุสาวรีย์พระนางจามเทวี" ปฐมกษัตริย์ของนครหริภุญชัย ทรงเป็นกษัตริยาที่ปรีชาสามารถหลายด้าน อาทิ การนำพระพุทธศาสนา และวัฒนธรรมมาเผยแพร่ดินแดนนแถบนี้ ทำให้มีความเจริญรุ่งเรืองมาถึงปัจจุบันโบราณสถาน "กู่ช้างลำพูน" เป็นโบราณเชื่อกันว่าข้างในนี้เป็นสุสานของช้างออกศึกคู่บารมีของพระนางจามเทวี ชื่อว่า “ปู่ก่ำงาเขียว”เดินไปด้านหลังจะมีกู่ม้า ที่เชื่อว่าเป็นสุสานม้าทรงของพระนางจามเทวี สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก็อย่าลืมแวะไปลอดท้องช้าง ที่เชื่อกันว่าจะได้รับพรแห่งชัยชยะ คิดสิ่งใดก็สมปรารถนาทุกเรื่อง"ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นลำไย (เวียงยอง)" ต้องบอกว่าเด็ดทั้งน้ำซุปนำกระดูกหมูลงไปต้มกับลำไย ให้ความหอมน้ำซุปแบบตุ๋นยาจีน และความหวานกลมกล่อมของลำไยก๋วยเตี๋ยวทรงเครื่องโบราณ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำแบบแห้ง ที่มีทั้งหมูตุ๋น เนื้อลำไย และทีเด็ดอีกอย่างคือมะม่วงซอย และถั่วฝักยาวมาทานของหวานล้างปากกันต่อที่ "ร้านเฉาก๋วยมุกดา" ร้านเฉาก๋วยที่อร่อยที่สุดในเมืองมนุษย์ ตามสโลแกนของทางร้าน ได้เฉาก๋วยมาปุ๊บ ยกซดปั๊บ อร่อยได้ไม่ยาก แถมร้านนี้ไม่มีสาขาอีก ร้านตั้งอยู่ในวัดพระธาตุหริภุญชัยปิดท้ายทริปด้วยเค้กลำไยแบบฟินๆ
Smith Burger เบอร์เกอร์โฮมเมด สไตล์ฟู้ดทรักเมืองจันท์
"ร้าน Smith Burger" เบอร์เกอร์โฮมเมด สไตล์ฟู้ดทรักเมืองจันท์ พิถีพิถันทั้งตัวขนมปังที่สั่งทำพิเศษเพื่อร้านโดยเฉพาะ เมนูก็มีหลากหลายให้ลอง บรรยากาศร้านก็แนวๆ มีมุมถ่ายรูปเยอะแยะ ชิคๆ คูลๆ ทั้งนั้นเมนูแนะนำมิสเตอร์สมิธ ซิกเนเจอร์ เบอร์เกอร์เบอร์เกอร์หมูกะเพรากรอบพอร์คชอปซอสพริกเกลือ
ก๋วยเตี๋ยวตรอกโรงหมู อร่อยเด็ด ไม่ต้องปรุง
"ก๋วยเตี๋ยวตรอกโรงหมู" ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ รสเด็ด แซ่บแบบไม่ต้องปรุง ทีเด็ดร้านนี้อยู่ที่เกี๊ยวและหมู คนชอบเส้นชอบเกี๊ยวห้ามพลาด! เมนูแนะนำเกี๋ยวลวกต้มยำน้ำ หมูนุ่ม หอมน้ำมันงา เกี๊ยวทอดต้มยำแห้ง เกี๊ยวอวบ ตัวใหญ่ ไส้แน่น ใช้สูตรพิเศษเฉพาะของทางร้านในการหมักหมูเส้นเล็กแห้งต้มยำใครผ่านมาแถวตรอกโรงหมูไม่แวะทานถือว่าพลาด! เป็นอีกร้านที่ควรเช็คอิน
ตามเปรี้ยวปากไปแซ่บกันที่ร้าน "ส้มตำบุญรอด จ. หนองบัวลำภู" ร้านส้มตำสุดแซ่บ ทั้งแซ่บ ทั้งนัว แล้วไม่ใช่แซ่บแค่ส้มต้มซะด้วย เมนูอื่นก็แซ่บไม่แพ้กัน ไปดูดีกว่าว่ามีเมนูอะไรบ้าง"ตำครูเจี๊ยบ" คล้ายๆตำลาว แต่ใส่เม็ดกระถิน"ตำปูม้า" ทีเด็ดอยู่ที่ปลาร้าทำเองสิ่งที่ต้องทานคู่กับส้มตำแน่ๆคือ "ไก่ย่าง" หมักด้วยเครื่องเทศมาแล้วรสชาติจะเข้าเนื้อ ย่างมาแห้งกำลังดี หนังกรอบ เนื้อชุ่มช่ำ"ปลานิลเผา" ที่ร้านจะมีบ่อปลานิลของตัวเอง เพราะฉะนั้นจะเลือกมาไซส์ใหญ่สะใจเลยทีเดียวใครแวะมาหนองบัวลำภูอย่าลืมแวะมาลองส้มตำแซ่บๆที่ ส้มตำบุญรอด นะคะ
ฉันไม่ว่าง แต่ถ้าใครว่างก็แวะมากินซีฟู้ดกันได้นะ
มาถึงย่านบรรทัดทองทั้งทีถึงแม้จะมี Street Food มากมาย แต่ถ้าสาวกซีฟู้ดต้องไปลองร้านเด็ดที่ "ฉันไม่ว่าง" สวรรค์ของคนรักซีฟู้ด หลายๆคนคงงงกับชื่อร้านว่าทำไมเป็น "ฉันไม่ว่าง" นั่นก็เพราะปกติคุณปอนด์ เจ้าของร้านทำงานประจำจึงไม่ค่อยมีเวลา ถึงเป็นที่มาของชื่อร้านนั่นเอง! ซีฟู้ดร้านนี้ทั้งสดทั้งใหม่กับหลากหลายเมนู ของคุณภาพขนาดนี้เพราะรวมของจากแหล่งที่มาเด็ดๆเอามาไว้ที่ร้านเดียวอีกด้วย มาทานซีฟู้ดทั้งทีคงจะเด็ดไม่สุดถ้าขาดน้ำจิ้มซีฟู้ด ของคู่กันของอาหารทะเล ร้านนี้มีน้ำจิ้มทั้งแบบ ซีฟู้ด น้ำจิ้มมะขาม"ข้าวผัดฉันไม่ว่าง" ข้าวผัดที่โปะมาทั้งเนื้อปู กรรเชียงปู กุ้งเสียบไม้ เรียกได้ว่ายกมาทั้งทะเลกันเลยทีเดียว"กุ้งแม่น้ำเผา" สด เนื้อเด้ง"ปูไข่นึ่งนมสด" ไข่ปูมาเต็มกระดอง จัดมาเน้นๆ ราดด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ด"ยำปูไข่ดอง""หอยเชลล์ย่างเนย"ร้านเด็ดขนานี้ใครอยากจะพาครอบครัว เพื่อน แฟน ไปฟินให้ตัวแตกรับรองไม่ผิดหวัง
มาถึงเมืองอุดรฯก็ต้องพาไปชิมอาหารขึ้นชื่อกันสักหน่อย อย่างร้าน "ร้านข้าวเปียก" ร้านขึ้นชื่อของคนอุดรฯ หลายๆคนคงไม่คุ้นหูกับเมนู "ข้าวเปียก" ที่คนอีกสานเรียกกัน แต่หน้าตาของข้าวเปียกเหมือนกับก๋วยจั๊บญวนนั่นเอง ข้าวเปียกเป็นเมนูที่คนอีสานมักกินเป็นอาหารเช้าโดยเฉพาะในหน้าหนาว ได้ทานข้าวเปียกร้อนๆช่วยคลายหนาวได้ดีทีเดียวร้านข้าวเปียก เป็นร้านอาหารพื้นเมืองต้นตำรับของชาวอุดร เปิดมานานกว่า 40 ปีแล้ว ความพิเศษของร้านนี้อยู่ที่เส้นข้าวเปียก ที่ผสมกันระหว่างเส้นข้าวเหนียวและข้าวหอมมะลินำไปโม่แล้วนำมานวดให้นุ่มและเหนียว ส่วนน้ำซุปก็ใช้กระดูกหมูส่วนหลังทำให้น้ำซุปหวานหอม"ข้าวเปียก""แกงเส้น""ขนมเหนียว""ข้าวจี่ปาเต"
เหลาในบึง อาหารเหลาฝีมือเชฟมิชลินสตาร์ มาในราคากันเอง
ใครจะไปรู้ว่าเพิงเล็กๆในตลาดต้นไม้บึงพระรามที่ จ.พระนครศรีอยุธยา จะมีอาหารเหลาฝีมือเชฟระดับมิชลินสตาร์ในร้านอาหารที่ประเทศเนเธอร์แลนด์อยู่ เรียกได้ว่าเป็น 'ร้านริมทาง แต่รสชาตินี่ระดับภัตตาคาร' เลยทีเดียวกับ "ร้านเหลาในบึง By เชฟวิทย์" เชฟวิทย์ หรือคุณวรวิทย์ สุมานาท เจ้าของร้านและเชฟระดับมิชลินสาร์ที่ผันตัวเองจากเชฟในร้านอาหารต่างประเทศมาเปิดร้านอาหารเล็กๆที่ไทย ขายอาหารตามสั่งง่ายๆ แต่รสชาติเด็ดสุดยอด สิ่งที่พิเศษอีกอย่างของร้านนี้คือ ทุกเมนูที่เสิร์ฟจะรองด้วยใบตองอ่อน ทำให้อาหารดูมีสีสันน่าทานมากขึ้น มาดูกันดีกว่าว่ามีเมนูเด็ดๆอะไรบ้าง"หมูกรอบ" ถือเป็นวัตถุดิบหลักเกือบทุกเมนูของร้าน หมูกรอบของที่นี่หนังบางกรอบแต่เนื้อยังชุ่มช่ำอยู่"หมูกรอบผักพริกเกลือ" คั่วหมูกรอบกับเครื่องต่างๆ ทั้งต้นหอม หอมใหญ่ พริก และซอสต่างๆ"หมูแดงผัดเต้าซี่""ปูผัดซอสXO" เนื้อปูส่งตรงมาจากสุราษฎร์ธานีเลย ผัดกับซอสXO สูตรกวางตุ้ง
แวะซื้อของฝากที่ตลาดศาลเจ้าโรงทองแล้วไปไหว้พระแบบ Unseen ที่วัดสังกระต่าย
ก่อนกลับจากอ่างทองแวะซื้อของฝากติดมือกลับไปด้วยที่ "ตลาดศาลเจ้าโรงทอง" ที่นี่เป็นแหล่งรวมร้านขนมหวาน โดยเฉพาะ "ขนมดอกลำเจียก" ขนมประจำจังหวัดอ่างทองที่ร้านขนมพรพรรณที่นี่เขาทำขนมกันสดๆ หรือเราอยากจะลองทำด้วยตัวเองก็ได้ด้วย ขนมดอกลำเจียก เป็นขนมไทยโบราณของรัชกาลที่ 2 ทำมาจากแป้งข้าวเหนียวผสมน้ำกะทิ ร่อนผ่านตะแกรงลงในกะทะร้อนๆเป็นแผ่นบาง ม้วนใส่ไส้มะพร้าวอ่อนอบควันเทียน ทานตอนร้อนๆเนื้อแป้งจะนุ่มลิ้น รสชาติหวานหอมที่ร้านยังขายขนมไทยโบราณอีกหลายอย่างทั้งขนมเกสรลำเจียก และขนมไข่ปลา ร้านขนมพรพรรณ ตั้งอยู่ที่ตลาดศาลเจ้าโรงทอง อ.วิเศษชัยชาญ เปิดตั้งแต่ 8.00-16.00 น.โทร. 08-5194-5893เดินเที่ยวตลาดกันเสร็จแล้วมาแวะไหว้พระที่ "วัดสังกระต่าย" ตั้งอยู่ที่ ต.ศาลาแดง อ.เมือง จ.อ่างทอง เป็นสถานที่ท่องเที่ยว Unseen แห่งใหม่ในอ่างทอง มีต้นโพธิ์ขึ้นคลุมรอบโบสถ์และภายในโบสถ์ถึง 4 ต้น งดงามจับตาจริงๆ ภายในโบสถ์แบ่งออกเป็น 3 ห้อง โดยมี 2 ห้องที่เชื่อมกันอยู่ ภายในห้องแรกเป็นที่ประดิษฐาน "หลวงพ่อแก่น" ส่วนห้องที่สองมีพระประธานองค์ใหญ่ 1 องค์ คือ หลวงพ่อวันดี และอีก 2 องค์มีขนาดย่อมลงมา คือ หลวงพ่อศรี และหลวงพ่อสุข ส่วนห้องสุดท้ายอยู่แยกออกไปด้านนอก จะมี "องค์ปู่โสม" และ "องค์ปู่พญานาค"
"3 เฮง ข้าวผัดปู" ร้านอร่อยย่านพัฒนาการที่เปิดโดย 3 หนุ่มคนรุ่นใหม่ที่อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง โดยที่ 2 หนุ่มนั้นจบทางด้านอาหาร ส่วนอีกหนึ่งหนุ่มจบด้านบริหารแค่ชื่อร้านก็เป็นข้าวผัดปูแน่นอนว่าทีเด็ดต้องอยู่ที่ "ข้าวผัดปู" ทางร้านพิถีพิถันตั้งแต่การเลือกข้าว การคุมไฟเพื่อให้ได้ข้าวที่หอมกลิ่นกระทะนิดๆ เนื้อปูนี่ก็ยังได้กันเป็นก้อนๆ ที่สำคัญมาในราคาเพียง 45 บาทเท่านั้น!!!อีกหนึ่งเมนูเด็ดที่ไม่แพ้ข้าวผัดปูนั่นก็คือ "กระเพาะปลา" (50 บาท) ใช้ซอสสูตรพิเศษในการปรุง ทำสดใหม่ที่ละชาม"ผัดหมี่ฮ่องกง" (50 บาท) ผัดหมี่กับซอสสูตรพิเศษของทางร้าน ใช้ไฟแรงในการผัดให้หมี่นั้นแห้งโดยที่ไม่ต้องใช้น้ำมัน เพราะฉะนั้นผัดหมี่ของทางร้านจะอร่อยโดยที่ไม่มันมากแต่ละจานราคาน่ารักซะจริงๆ จัดไปหลายจานขนาดนี้ รับรองว่าอิ่มกันได้ในราคาสบายกระเป๋าแน่นอน!
คุณแจง ก๋วยเตี๋ยวปากหม้อเข้าวัง
มาเยือนขอนแก่นทั้งทีต้องมาลองของดีของเด็ดกันที่ร้าน "คุณแจง ก๋วยเตี๋ยวปากหม้อเข้าวัง" ร้านก๋วยเตี๋ยวที่ไม่ใช้เส้นก๋วยเตี๋ยวแต่ใช้ปากหม้อแทน ตัวกุยช่ายปากหม้อก็แป้งนุ่ม รสเด็ดจนได้ทำถวายเข้าวังจนกลายเป็นที่มาของชื่อร้าน"กุยช่ายปากหม้อ" แป้งนุ่ม ไส้แน่น เด็ดจนเป็นเมนูที่ได้ทำถวายเข้าวัง"ก๋วยเตี๋ยวปากหม้อต้มยำไข่" นอกจากทางร้านจะใช้ปากหม้อแทนเส้นแล้ว ตัวปากหม้อเองก็มีหลายไส้ให้เลือก"บะหมี่เปาะ ปากหม้อ" มีทั้งไก่ตุ๋น หมู และเกี๊ยวกรอบ ทานคู่กับน้ำจิ้มปากหม้อ คล้ายกับบะหมี่แห้ง
ไก่ในหิน ข้าวมันไก่ของคนรุ่นใหม่ อร่อยแบบไม่ธรรมดา
"ไก่ในหิน" ร้านข้าวมันไก่ของนักร้องนักดนตรีมากความสามารถอย่าง "เป๊ก และ เคน วง Zeal" แค่ชื่อร้านก็พอจะเดาได้แล้วว่าพิถีพิถันทุกขั้นตอนในการทำกว่าจะออกมาให้ทุกคนได้ชิม พิถีพิถันตั้งแต่ไก่ที่เลี้ยงไปจนถึงข้าวที่มีความแน่น หนึบและนุ่มในตัว บรรยากาศภายในร้านก็เป็นสไตล์โมเดิร์น ให้ความรู้สึกสะอาด สบายตา แถมยังมีมุมถ่ายรูปอีกด้วย ราคาก็ไม่ได้แรง ใครผ่านไปผ่านมาแถวลาดพร้าว-วังหิน อย่าลืมแวะมาอุดหนุนหนุ่มเป๊กและหนุ่มเคนกันนะ"ไก่ล้วนผสม" (ธรรมดา 150 บาท/ พิเศษ 200 บาท)
หลงโถวคาเฟ่ คาเฟ่อาหารจีนสุดคูลใจกลางเยาวราช
เยาวราช ย่านอาหารจีนสุดคลาสสิคที่ใครๆก็ต้องนึกถึง มีคาเฟ่น้องใหม่มาเปิดใจกลางเยาวราชตอนนี้ "หลงโถวคาเฟ่" ร้านอาหารจีนสไตล์โมเดิร์นสุดฮิตที่ได้รับความนิยมจนคิวยาวแบบที่คนผ่านไปผ่านมาถึงกับต้องเหลียวมองว่าเขาต่อคิวทำอะไรกัน“หลงโถวคาเฟ่” หรือ Lhong Tou Cafe มีทั้งติ่มซำ อาหารจีน และขนมหวานสูตรพิเศษ จัดมาในสัดส่วนน่ารักพอดีคำ และเป็นอาหารที่ทานง่าย รสชาติดีนอกจากอาหารจะน่าทานแล้วบรรยากาศร้านก็พิเศษไม่แพ้กัน เพราะมีพื้นที่จำกัดเจ้าของจึงออกแบบร้านให้เป็นเก้าอี้ไม้ 2 ชั้นเพื่อเพิ่มพื้นที่นั่งให้มากขึ้น และยังใช้สัตว์มงคลของจีนมาตกแต่งร้าน เช่น ไก่, กระต่าย, นกกระเรียน, นกยูง เป็นต้น จนเป็นกิมมิคของทางร้านที่ใครๆก็อยากมาถ่ายรูป"โป๊ยเซียนเซต" (129 บาท) เซตข้าวต้มอาหารเช้า 8 เซียน เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียง 8 อย่าง"ขนมจีบหลงโถว" (69 บาท) เมนูซิกเนเจอร์ของทางร้าน ไส้ทำจากหมูผสมกุยช่าย ทานคู่กับน้ำจิ้มผสมหม่าล่า"ซาลาเปาลาวาไข่เค็ม" (29 บาท/ 1 ชิ้น) ซาลาเปาไส้คัสตาร์ดไข่เค็มไส้ไหล"มินิเปาหมูแดง" (49 บาท) ซาลาเปาทอดไส้หมูแดงลูกเล็กน่ารัก"ปอเปี๊ยะกุ้งทอด" (59 บาท)"ทาร์ตเกาลัด" (135 บาท)
เพราะของอร่อยจะเยียวยาทุกสิ่ง งานนี้แอดมินเปรี้ยวปากเลยขอไปบุก ตลาดนัดแห่งย่านอโศก ที่มีให้พบกันทุกวันอังคารและวันพฤหัสบดี กับตลาดนัด มศว. ที่มีร้านค้าให้เราเลือกซื้อสินค้า และอร่อยไปกับเมนูทั้งคาวหวานแบบเยอะมาก ตลาดนัดแห่งนี้จะมีอะไรเด็ดๆ บ้าง แอดมินคัดมาให้แล้วจ้า เดินเข้าจากหน้ามหาลัยก็จะเจอตลาดเลย คนเยอะมากๆ- ร้านรินชา l The best of tea -รินชา ร้านนี้เค้าเป็นเครื่องดื่มที่มี Topping เป็นธัญพืช เราสามารถเลือกเครื่องดื่มได้ทั้งชาเย็น , นมสด , หรือชาดำเย็น โดยใบชาที่ใช้เป็นชามาจากอินโดเลยน๊า....(ราคาอยู่ที่ 20-30 บาท) **มาทุกวันอังคาร- ร้านขนมถ้วย แม่ทองหยิบ -ขนมถ้วย แม่ทองหยิบ จากเมืองพิษณุโลก ไฮไลท์ของร้านนี้คือเค้าจะมีขนมถ้วย 2 แบบ คือขนมถ้วยใบเตย หน้ากะทิ และขนมถ้วยอัญชัน หน้าที่ใส่จะเป็นสังขยา รสชาติไม่หวานมาก ซื้อติดมาออฟฟิศทานชิลๆ มื้อบ่ายคือกินเพลิน (ราคากล่องละ 30 บาท สามารถคละรสชาติได้) **มาทุกวันอังคาร- ร้านแม่บุญนำ มะม่วงน้ำปลาหวาน -มื้อบ่ายอยากคลายง่วงต้องจัดร้านนี้เลยค่ะ แม่บุญนำ ที่มีได้มีแค่มะม่วงน้ำปลาหวานนะคะ เค้ามีน้ำจิ้มแบบกะปิแซ่บๆ ด้วย หรือใครอยากอิ่มกับข้าวคลุกกะปิ แม่ก็มีให้อร่อยเหมือนกัน ร้านนี้แอดมินแนะนำเลยจ้า (มะม่วงน้ำปลาหวาน ราคา 60 บาท) **มาทุกวันอังคาร- พลอยไพริน น้ำผลไม้ปั่น -ร้านนี้คนต่อคิวเยอะมากกกกก ร้านพลอยไพริน เป็นร้านน้ำปั่น มีทั้งกล้วยปั่น สตรอว์เบอร์รีปั่น นมมปั่น กาแฟ โกโก้ ปั่นต่างๆ นานา จุดเด่นอยู่ที่วิปครีมที่เค้าให้มาแบบล้นทะลัก แก้วที่แอดสั่งคือ นมอัญชั่นปั่น อร่อยหอมมันชื่นจาย (ราคาแก้วละ 40 บาท) **มาทั้งวันอังคารและวันพฤหัสบดี - หมูสะเต๊ะ -เห็นคนมุงๆ มีหรือที่แอดมินจะไม่เดินเข้าใส่ ร้านนี้เป็นหมูสะเต๊ะ ความหอมยังไม่สะใจเท่าได้กินจริงๆ ค่ะคู้ณ หอม นุ่ม อร่อย (ชุดเล็กราคา 50 บาท , ชุดใหญ่ 100 บาท) **ร้านนี้ขายสะเต๊ะทุกวันอังคาร ส่วนวันพฤหัสบดี จะเป็นเนื้อย่างนะคะ- บังโดนัท - โดนัทแป้งเค้ก ของร้านบังโดนัท เนื้อนุ่มอร่อย วันนี้มีให้อร่อย 2 รสชาติ คือวนิลลานมสด และชาเขียว ใครอยากเพิ่มหวานสามารถให้โรยน้ำตาลเพิ่มได้นะคะ แต่ถ้าใครอยากคลีนๆ ลดหวานลงหน่อย ก็อร่อยได้เหมือนกันน๊า (ราคาถุงละ 25 บาท) **มาทุกวันอังคารเว้นอังคารจ้านอกจากร้านที่แอดมินคัดมาให้แล้ว ยังมีร้านอื่นๆให้อร่อยอีกเพี๊ยบ
ข้าวซอยรสชาติเข้มข้นถึงใจต้อง 'น่านบ้านข้าวซอย'
มาเมืองเหนืออย่างน่านทั้งทีเมนูเด็ดก็ต้องเป็นข้าวซอยอย่างแน่นอน แต่ถ้าอยากทานแบบออรินัลต้องที่ร้าน "น่านบ้านข้าวซอย" ร้านข้าวซอยเล็กๆ บรรยากาศสบายๆ แต่รสชาติข้าวซอยเข้มข้นถึงใจ หอมเครื่องแกง เส้นนุ่ม เหนียว ที่ร้านจัดเครื่องมาให้แบบแน่นๆ มีให้เลือกทั้งหมูเด้ง ซี่โครง กุ้ง ปลาหมึก อกไก่ ชอบแบบไหนจัดกันได้เลย หรือจะจัดเมนูแปลกๆ เช่น ข้าวซอยกะเพรา, ข้าวซอยผัดซีอิ๊ว เป็นต้น ทางร้านก็ยังมีเพราะทำทุกอย่างเองจึงจับมิกซ์แอนด์แมทช์ได้อย่างลงตัว"ข้าวซอยไก่""ข้าวกั้นจิ๊นทรงเครื่อง" ข้าวคลุกกับเลือดหมู ทานคู่กับหมูหวาน กุนเชียง"ข้าวซอยแห้งหมูเด้ง" ราดน้ำข้าวซอยแบบคลุกคลิก
โคตรคุ้ม!!! กะเพราะล้นจาน ร้านเสียวหลัง
ตามเปรี้ยวปากมาอร่อยสุดคุ้มกับร้านที่มีชื่อแปลกๆอย่าง "ร้านเสียวหลัง" แหม แค่ชื่อร้านก็งงไปตามๆกันว่าทำไมชื่อนี้ ที่มาของชื่อร้านเป็นแบบนี้เพราะเมื่อก่อนบริเวณร้านเป็นตลาด เวลาลูกค้ามานั่งทานก็จะมีรถเข็นต่างๆเข็นผ่านไปทางด้านหลัง ลูกค้าจึงต้องคอยเหลียวหลังระวังอยู่ตลอด จึงเป็นที่มาของชื่อร้าน "เสียวหลัง" นั่นเองร้านเสียวหลังเป็นร้านอาหารตามสั่งธรรมดาอยู่แถวโรงเรียนราชินี แต่ที่ไม่ธรรมดาคือ เมนูข้าวกะเพราไก่ และ ข้าวไก่กระเทียม ที่จัดมาแบบพูนจาน ราคาก็แค่ 35 บาท หรืออยากจะเพิ่มไข่ดาวก็แค่ 8 บาท จานเดียวกินกันได้ 2-3 คนเลย เรียกว่าอิ่มท้องแบบโคตรคุ้ม "ข้าวกะเพราไก่ไข่ดาว""ข้าวไก่กระเทียมไข่ดาว"
ดับร้อนด้วยเฉาก๊วยหอมน้ำตาลทรายแดง ร้านเฮียมัก
อีกหนึ่งร้านห้ามพลาดแถวท่าเตียนนั่นคือ "ร้านเต้าฮวย เฉาก๊วย เฮียมัก" ร้านรถเข็นเล็กๆขวัญใจนักเรียน คุณครู และผู้ปกครองโรงเรียนราชินี เพราะความหวานของเฉาก๊วยเย็นๆหอมน้ำตาลทรายแดงนี่ละที่มัดใจเหล่าลูกค้าเอาไว้ ราคาก็แสนย่อมเยาว์ เฉาก๊วย 12 บาท เต้าฮวย 13 บาท เท่านั้นเอง!!! "เฉาก๊วย" หวาน หอม เย็นชื่นใจ"เต้าฮวยน้ำขิง"ใครมาแถวโรงเรียนราชินีอย่าลืมมาลองเฮียมักกันนะคะ
่ครึ่งวันทริป ตลาดน้อย ร้อยกว่ารูป
วันนี้แอดเจน กับแอดนุ่ม ชวนกันมาหามุมถ่ายรูปที่ #ตลาดน้อย งานนี้สองสาวเค้า Acting กันไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่ เลยได้มาเบาๆ 4 - 500 รูป แต่แอดจ้อยขอคัดมาเฉพาะอันที่พอดูได้ให้ชมแล้วกันนะคะ นัดนี้แก๊งเราเดินทางมาด้วย MRT ลงที่สถานีหัวลำโพง แล้วต่อรถมาที่ตลาดน้อยเลยจ้า 10.00 น. เวลากำลังดีกับการนัดกันของทริปนี้ ทุกคนมาพร้อมรวมตัวกับที่โฮสเทลเล็กๆ ตรงหน้าปากซอยเจริญกรุง 22 วันนี้ถือว่าแดดดีทีเดียว มีครึ้มบ้างแต่ใจสู้ซะอย่าง ลุยค่ะ! เราเริ่มลั่น Shutter กันตั้งแต่หน้าปากซอย ที่ตลาดน้อยจะเป็นตึกแถวแบบโบราณ เหมือนที่เราเคยดูในละครพีเรียท เดินผ่านมาเห็นประตูบ้านสีวินเทจแบบนี้ เลยต้องขอถ่ายเก็บไว้หน่อยค่ะ 10.10 น. เดินเข้ามาอีกหน่อย ก็เจอกับร้านกะหรี่ปั๊บเจ้าดัง “คุณปุ๊กะหรี่ปั๊บ” ที่ใจดีหอบกระหรี่ปั๊บให้ทีมงานมา 1 กล่องใหญ่ และขนมเทียนอีกคนละ 2 ชิ้นให้ลองชิมกัน - แอดบอกแบบไม่อวยเลยว่า กะหรี่ปั๊บเค้าดีจริงๆ กรอบนอก อร่อยไส้ ไม่อมน้ำมัน ทานได้เรื่อยๆ -10.30 น. พวกเราโอ้เอ้ เดินถ่ายรูปกันไปเรื่อยๆ จะสุดซอยเจริญกรุง 22 (ก็จะเป็นซอยวานิช 2) ถ้าเราเลี้ยวขวา ก็จะเจอกับภาพวาดมุมฮิตอีกมุมที่ใครมาก็ต้องถ่ายรูปกัน แต่ถ้าเลี้ยวซ้าย ก็จะเจอกับ ร้านเป็ดตุ๋นเจ้าท่า ร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ดตุ๋นร้านฮิตที่ใครมาต้องแวะกินจุดหมายของเราคือฝั่งตรงข้ามกับร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ด จะเป็นทางเข้าของ “ศาลเจ้าฮ้อนหว่องกุง” หรือ “ศาลเจ้าโรงเกือก” ค่ะ จุดนี้คืออีกจุดพีคของที่นี่ ที่เราจะได้ถ่ายรูปแบบฮิพๆ กับภาพวาด Street Art ที่สะท้อนความเป็นตลาดน้อย เป็นทางยาวเกือบถึงทางเข้าศาลเจ้าเลยที่อยู่สุดซอยเลยทีเดียว - กว่าจะถึงวัด ....-10.50 น. หลังจากไหว้ขอพร เทพเจ้าในศาลเจ้าแล้ว ก็ขอเก็บภาพบรรยากาศหน่อย เพราะศาลเจ้าที่นี่ อยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา บรรยากาศดีมาก11.10 น. ออกมาจากศาลเจ้า เดินตรงตามทางเลี้ยวลัดต่ออีกหน่อย จะเจอกับ “บ้านโซวเฮงไถ่” คฤหาสน์เก๋งจีนโบราณ ที่มีสระน้ำโดดเด่นอยู่กลางบ้าน เป็นอีกหนึ่งจุดที่ใครๆ ก็ต้องมา เข้าไปอย่าลืมอุดหนุนเครื่องดื่มอย่างน้อยคนละ 1 แก้วนะคะ บอกเลยว่าเครื่องดื่มที่นี่ เติมความสดชื่นได้ดีจริงๆ แถมยังได้พักถ่ายรูปในนี้ได้อีกเป็นร้อย โดยเฉพาะมุมสระน้ำนี่แหละค่ะ12.00 น. เที่ยงตรงเป๊ะ แอดเจนต้องทานข้าวให้ตรงเวลา พวกเราเลยได้ทานเป็ดตุ๋นเจ้าท่าคนละชามสองชาม ก่อนที่จะขึ้นเรือที่ #ท่าเรือกรมเจ้าท่า แยกย้ายกัน แล้วเจอกันใหม่ทริปหน้าน๊า! คุณปุ๊ กะหรี่ปั๊บ ณ ตลาดน้อย ชิ้นละ 8 บาท มี 6 ไส้ด้วยกัน คือ ไส้ไก่ , เผือก , ถั่วหวาน , ถั่วเค็ม , สับปะรด , มะพร้าว โทร 0 2237 5425 , 08 0602 2055 #บ้านโซวเฮงไถ่ คฤหาสน์เก๋งจีนโบราณ เปิดอังคาร – วันอาทิตย์ เวลา 09.00 – 18.00 น. (ปิดวันจันทร์)
บุกตำนานข้าวหลาม 100 ปี!!! ร้านข้าวหลามแม่ลูกจันทร์
ตามมาบุกตำนานร้านข้าวหลามของนครปฐม "ร้านข้าวหลามแม่ลูกจันทร์" ที่เปิดขายมากกว่า 100 ปี!!! ทำสดใหม่วันต่อวัน ข้าวเหนียวเนื้อนุ่ม หมูชิ้นใหญ่เต็มปากเต็มคำ ขายดีขนาดว่าทำวันละ 400-500 กระบอก ยังขายแปบเดียวหมด บางคนถึงขั้นต้องโทรมาสั่งล่วงหน้ากันเลย นอกจากเมนูข้าวหลามปกติแล้วยังมีเมนูเด็ดอีกนั่นคือ "ข้าวหลามหน้าบ๊ะจ่าง" และ "ข้าวหลามสังขยา" ราคาก็แสนจะสบายกระเป๋า หอบกลับบ้านไปฝากกันได้หลายกระบอก เมนูข้าวหลาม"ข้าวหลามข้าวเหนียวขาว" (3 กระบอก 100 บาท ) "ข้าวหลามข้าวเหนียวดำ" (3 กระบอก 100 บาท )"ข้าวหลามหน้าบ๊ะจ่าง" (กระบอกละ 100 บาท )
ใครอยากทานกะเพรามันส์ๆต้องที่ เจ้าพ่อกะเพรา by DNA
ถ้าพูดถึงกะเพราะใครๆก็คงคิดว่าเป็นเมนูธรรมดา แต่ว่าที่ "ร้าน เจ้าพ่อกะเพรา by DNA" ทำให้กะเพราทันสมัย โกอินเตอร์ด้วยเพลง EDM มันส์ๆ และยังเข้ากันได้ดีกับรสชาติของกะเพราที่ดุเด็ดเผ็ดมัน ถ้าใครไปทานแล้วเผอิญเห็นโต๊ะข้างๆลุกขึ้นเต้นก็อย่าแปลกใจไปนะจ้ะ เมนูเด็ด "กะเพราปลาหมึกย่าง" หนึบหนับด้วยเนื้อปลาหมึกย่างที่หอมหวนชวนทาน "กะทะร้อนเนื้อตุ๋น" ใช้เวลาตุ๋นกว่า 3 ชม. เพื่อคงความนุ่มของเนื้อเอาไว้ "กะเพราฟัวกราส์" วัตถุดิบชั้นเลิศ "ฟัวกราส์" ส่งตรงมาจากฝรั่งเศส มาในราคาเพียง 350 บาทเท่านั้น!!!
"คั่วไก่ไอ้เครา" คั่วไก่สุดเฟี้ยวฟ้าวแห่งวุฒากาศ
"คั่วไก่ไอ้เครา" ร้านเด็ดที่หลายคนอยากมาลิ้มลอง ด้วยการคั่วไหม้ๆ หอมกลิ่นกะทะแบบออริจินอลแต่เสิร์ฟมาในรูปแบบใหม่ให้ดูอินเทรนด์ แค่นี้ยังไม่พอวัตถุดิบที่ใช้ก็สดใหม่ ใช้เส้นสดผัด ผักก็เป็นออร์แกนิก คัดสรรทุกอย่างมาอย่างดี รับรองอร่อยเด็ดทุกจาน"คั่วไก่Original ""คั่วพริกเกลือหมูกรอบ" "คั่วไก่ไข่อบเส้นกรอบรวมมิตรทะเล"
กินตำ 20 แซ่บยกครกในราคา 20 บาท!!!!
"กินตำ 20" ร้านส้มตำย่านสายไหม ราคาเริ่มต้นเพียง 20 บาทเท่านั้น!!! แต่ละเมนูทั้งแซ่บและนัวปลาร้าเว่อร์ ใครอยากมาแซ่บมาได้ทั้งสาขาปากเกร็ดและสายไหมเลยจ้าเมนูเด็ด"สามชั้นกรอบตลบแจ่ว ""เซตตำ20 3 เมนูเด็ด" ราคาเมนูละ 20 บาท (ตำไทย, ตำลาว, ตำขนมจีน) "ตำยำปลาร้าทะเล ""ไก่ย่างตกถังสมุนไพร ""แกงเปรอะ "
หมูทอดจิ้มแจ่ว เด็ดทั้งหมู แซ่บทั้งน้ำจิ้ม
เดินตามกลิ่นหอมของหมูทอดมาแต่ไกลจนถึงร้าน "หมูทอดจิ้มแจ่ว" ของพ่อค้าแซ่บ บอย พิษณุ หมูทอดก็เด็ด น้ำจิ้มแซ่บๆมีให้เลือก 2 แบบ คือ น้ำจิ้มแจ่วแซ่บสะเดิด และ น้ำจิ้มแจ่วปลาร้าหอม ทานคู่กับข้าวเหนียวร้อนๆคือฟินเมนูเด็ด"เนื้อทอด ""ซี่โครงหมูทอด หมักอย่างดี เนื้อนุ่มติดกระดูก ""หมูไร้มันทอดกระเทียม""หมูสามชั้นทอดน้ำปลา "
ก๋วยเตี๋ยวหลอดติงต๊อง ตำนาน 40 ปี ธรรมดา 50 พิเศษ 40
TopListร้านอร่อยถนนจันทน์ เริ่มด้วยราคาอาหารแปลกๆอย่าง "ธรรมดา 50 พิเศษ 40" งงกันมั้ยว่าทำไมราคาดูงงๆแปลกๆ เพราะนี่คือ "ร้านก๋วยเตี๋ยวหลอดติงต๊อง" นั่นเอง! ร้านนี้เปิดมากกว่า 40 ปี ขายมานานตั้งแต่ชามละ 2 บาท และแน่นอนว่าเมนูเด็ดต้องเป็น "ก๋วยเตี๋ยวหลอด""ก๋วยเตี๋ยวหลอดติงต๊อง" เป็นสไตล์จีนโบราณ มาพร้อมเครื่องแน่นๆ น้ำราดหอมๆที่ตุ๋นกับปลาหมึก หนังหมู หมูสามชั้น และเห็ดหอม ราดน้ำตุ๋นลงบนเส้นก๋วยเตี๋ยวนึ่งร้อนๆ ทานพร้อมเกี๊ยวกรอบห่อหมู บอกเลยว่าฟินสุดๆ!
"เฮียหวานข้าวต้มปลา" ซีฟู้ดใหญ่ยักษ์ รับประกันความสดใหม่
"เฮียหวาน ข้าวต้มปลา" อีกหนึ่ง TopListร้านอร่อยถนนจันทน์ ในสไตล์เปรี้ยวปากที่ทุกคนห้ามพลาด! ทั้งความสดไซส์ใหญ่ยักษ์ของซีฟู้ดที่ส่งตรงมาจากทะเลทางใต้ และน้ำจิ้มรสเด็ดแซ่บTopListร้านเฮียหวานข้าวต้มปลาอันดับ 1 "ข้าวต้มปลาเก๋าใส่กุ้ง" เนื้อปลาสด ชิ้นโตอันดับ 2 "ต้มยำกุ้งน้ำข้น" รสจัดจ้าน เข้มข้น อันดับ 3 "กุ้งกระเทียม"อันดับ 4 "ปูไข่ดอง"อันดับ 5 "ยำรวมมิตรทะเล" เครื่องแน่นๆทั้งปลาเก๋า กุ้ง และปลาหมึก
Top List ราชพฤกษ์ เปรี้ยวปากจะพาไปร้าน "คอหมูพระราม5" ใครไม่มาลองถือว่าพลาดเพราะมีเชฟมากฝีมืออย่าง "เชฟยีนต์ นกุล" เจ้าของร้านรังสรรค์สารพัดเมนูจากคอหมูย่าง ทางร้านใช้คางหมูหมักและย่างบนเตาจนหอมทานคู่กับน้ำจิ้มที่มีให้เลือกถึง 9 ชนิด และผักหลากหลายชนิดให้เลือกตักมาทานคู่กันเมนูเด็ด "ข้าวคอหมูย่าง ""ข้าวหมูชาชูซาเตี๊ยะ" ได้แรงบันดาลใจมาจากปลาทูซาเตี๊ยะแม่กลอง ตุ๋นหมูนานถึง 3-5 ชม. "แกงรัญจวนเวียงจันทน์ ""ไข่กบ นกปล่อย บัวลอย อ้ายตื้อ" ขนมหวานสุดครีเอทจากเชฟไข่กบ คือ เม็ดแมงลักนกปล่อย คือ ลอดช่องบัวลอย คือ ข้าวต่ออบควันเทียนอ้ายตื้อ คือ ข้าวเหนียวดำ"แคบหมู" ชื้นใหญ่ยักษ์อลังการ
ก๋วยเตี๋ยวตี๋ใหญ่ต้มยำ เครื่องแน่น ชามใหญ่ รสเด็ด
"ก๋วยเตี๋ยวต้มยำตี๋ใหญ่" ร้านก๋วยเตี๋ยวชื่อดังในสามย่านขวัญใจเด็กจุฬาฯ ทำได้สารพัดเมนูที่มีวัตถุดิบอยู่ ไม่ว่าจะสั่งแบบไหนทำได้หมด ชามใหญ่ เครื่องแน่น ทีเด็ดคือมีไข่ให้เลือกด้วยไม่ว่าจะเป็นไข่เจียว, ไข่ดาว, ไข่ต้ม จุดเริ่มต้นของร้านเกิดจากที่เจ้าของร้านชอบทานเมนูก๋วยเตี๋ยวจึงเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวน้ำใสธรรมดา และพัฒนาสูตรมาเรื่อยๆจนกลายเป็นเมนู ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ สูตรเด็ดที่ลูกค้าต้องมาทานซ้ำกันเรื่อยๆ"บะหมี่แห้งต้มยำไข่เจียว" เครื่องอัดแน่น มีทั้งน่องไก่ตุ๋น, หมูกรอบ, หมูสับรวน, ไข่เจียว และเกี๊ยวกรอบชามใหญ่จุใจ "บะหมี่ทงคัตสึ" เมนูฟิวชั่นมิกซ์ก๋วยเตี๋ยวเข้ากับทงคัตสึไก่"ก๋วยเตี๋ยวปลาพริกสด" เครื่องในเมนูนี้คือเนื้อปลากะพงสด ลูกชิ้นปลาสดเสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มพริกสดรสเด็ด
ผัดไทยไฟทะลุ เมนูดังไกล กระทะไฟลุกโชน
วันนี้เปรี้ยวปากพาไปตะลุยร้านสตรีฟู้ดย่านเก่าแก่บนถนนดินสอ "ร้านผัดไทยไฟทะลุ" แค่ชื่อร้านก็แปลกใหม่แล้วยังมีเจ้าของร้านเป็นถึงเชฟมิชลิน การันตีฝีมือโดยเชฟแอนดี้ หยางความพิเศษของที่ร้านคือจะใช้ไฟแรงในการผัดผัดไทยจนหอมกลิ่นกะทะสมชื่อร้านผัดไทยไฟทะลุ วัตถุดิบจัดเต็ม ผัดจานต่อจานใส่ใจทุกรายละเอียดหากใครผ่านไปผ่านมาที่ร้านผัดไทยไฟทะลุคงจะคิดว่าเป็นร้านสตรีทฟู้ดธรรมดา แต่ถ้าขึ้นมาที่ชั้น 2 ของร้านจะเป็นห้องแอร์ นั่งทานอาหารกันได้แบบเย็นสบาย ไม่ต้องกลัวนั่งรอผัดไทยกันจนหน้ามันเยิ้ม"ผัดไทยไฟทะลุมันกุ้ง" กุ้งสด ตัวโต มันเยิ้มๆ ตัวเส้นหอมกลิ่นไหม้นิดๆจากการผัด"ผัดไทยไฟทะลุ""โคตรไก่ย่าง" ไก่นุ่มไร้สาร
ส้มตำด่านสกัดลาว เด็ด เผ็ด แซ่บ นัวปลาร้า
วันนี้เปรี้ยวปากพาไปร้านอาหารอีสานสไตล์ไทยแท้แบบลับๆแต่ไม่ลับ! ในตลาดมารวย ซอยหทัยราษฎร์ 54 ที่ร้าน ”ส้มตำด่านสกัดลาว" มาพร้อมกับเมนูอีสานรสจัดจ้าน อร่อยแซ่บ การันตีรสชาติความเด็ด เผ็ด นัว โดยเฉพาะน้ำปลาร้าสูตรของทางร้านที่นัวมากจริงๆ อย่ารอช้ามาเริ่มกันที่เมนูแรก "ตำหอยแครง" หอยแครงสด สั่งมาวันต่อวัน! ใครอยากทานเมนูนี้ต้องโทรจองกันหน่อยนะจ้ะเมนูถัดมาคือ "ตำสายบัว" สายบัวสด กรอบ น้ำปลาร้าซึมเข้าถึงด้านใน"ก้อยหอยเชอรี่" สูตรอีสานแท้ๆ รสจัดจ้าน"ปีกไก่ย่าง" ทางร้านนำไก่ไปหมักด้วยสูตรเฉพาะของทางร้านจนได้ที่ แล้วนำมาย่างบนเตาถ่านจนเหลืองกรอบนอกนุ่มใน"คอหมูย่าง" สูตรลับของทางร้านคอหมูย่างนุ่มๆ กับ ข้าวคั่วกรอบๆ ทานคู่กับน้ำจิ้มแจ่วรสแซ่บ จะมีอะไรดีกว่านี้อีกมั้ย ตอบได้เลยว่าไม่มี!
"เฮียแบะบางโพ" ร้านข้าวต้มรสเด็ดจากฝีมือเฮียแบะที่ได้ชื่อว่าเป็น อัศวินข้าวต้ม จากประสบการณ์ที่สะสมมากว่า 58 ปี ตั้งแต่ข้าวต้ม 1 สลึง ส่งต่อสูตรจากรุ่นสู่รุ่นจนในปัจจุบันเป็นรุ่นที่ 3 แล้ว การันตีรสชาติ กลมกล่อมกำลังดี มีเมนูทั้งไทยและจีนให้เลือกหลากหลาย จนมีลูกค้าเก่าใหม่มาไม่เคยขาดเริ่มด้วยเมนูซิกเนเจอร์ของทางร้าน "เต้าหู้กระดานทอด" กรอบนอก นุ่มใน ต่อด้วยความหอมปลาอินทรีในเมนู "ยำหมูสับปลาอินทรีเค็ม" รสชาติเปรี้ยว เค็ม กำลังดี มาที่เมนูน้ำๆกันบ้างต้องเมนูนี้เลยใช้ปลาเก๋าใหญ่ถึง 20 กิโลกรัมต่อวัน นั่นคือ "ต้มยำปลาเก๋า" รสแซ่บเด็ด เมนูฮอตที่ลูกค้าชื่นชอบ "ปั๊วเจียงจื้อ" หรือหัวปลาโบราณ สูตรเด็ดจากซัวเถาประเทศจีนปิดท้ายด้วยเมนูสุดเผ็ดร้อน "กุ้งฟูผัดพริกขิง"
ข้าวต้มกระดูกหมู น้ำซุปหอม หวาน เครื่องแน่นจัดเต็ม
"ร้านข้าวต้มกระดูกหมู" เปิดมายาวนานกว่า 40 ปี เป็นข้าวต้มสูตรโบราณที่ต้องต้มข้าวกับน้ำซุปหลายชั่วโมงจนนุ่มได้ที่ ข้าวต้มจึงทั้งหอมและหวาน เครื่องก็แน่นจัดเต็ม นอกจากนี้ทางร้านยังมีเมนูอาหารจานเดียวให้เลือกสั่งได้หลากหลายเมนูไว้ทานคู่กับข้าวต้ม "หม้อไฟห้าสหาย""ข้าวต้มกระดูกหมู""ลวกจิ้มห้าสหาย"
สีมรกต ร้านข้าวหมูแดงชิ้นโต หอมกลิ่นเตาถ่าน
เชื่อว่าหลายคนต้องรู้จักร้านในตำนานอย่าง "สีมรกต" ร้านข้าวหมูแดงที่ครองใจคนไทยมากกว่า 70 ปี ด้วยความแน่นของหมูแดงและหมูกรอบชิ้นโตที่หอมกลิ่นเตาถ่าน ยิ่งทานคู่กับน้ำราดสูตรเก่าแก่ของทางร้านคือฟินแม้ว่าข้าวหมูแดง ข้าวหมูกรอบจานใหญ่จะเป็นเมนูขึ้นชื่อของทางร้าน แต่ไม่จำเป็นต้องสั่งเฉพาะจานใหญ่เพราะที่นี่มีทั้งแบบจานเล็กและใหญ่ให้ได้เลือกอิ่มอร่อยกันเริ่มด้วย "ข้าวหมูแดง หมูกรอบ(จานใหญ่)" หมูแดงชิ้นโตๆ มาในราคา 110 บาท ใส่ไข่เพิ่มราคา 120 บาทใครกลัวจานใหญ่จะอิ่มเกินไปจัด "ข้าวหมูแดง หมูกรอบ(จานเล็ก)" มาทานให้อิ่มได้แบบพอดีๆในราคา 40 บาทเท่านั้น! เพิ่มไข่ราคา 50 บาท
น๊อตโตะ ยำปากบาน ยำยั่วๆ แซ่บ เผ็ด นัวสุด
ช่วงนี้ร้านยำแซ่บๆฮอตฮิตเหลือเกินในโลกโซเชียล เปรี้ยวปากเลยขอพาไปอัพเดทความแซ่บกันที่ร้าน "น๊อตโตะ ยำปากบาน" ยำยั่วๆ แซ่บ เผ็ด นัว ที่จังหวัดจันทบุรี แซ่บทั้งยำแซ่บทั้งแม่ค้ากันไปเลยมีเมนูหลากหลายให้เลือก น้ำยำที่ใช้ก็ต่างกันยำกันชามต่อชาม ของทะเลที่ใช้รับมาวันต่อวันขึ้นจากเรือก็มาส่งถึงร้านเลยรับรองว่าสดใหม่แน่นอน ความแซ่บไม่ต้องพูดถึงแค่เห็นก็น้ำลายสอกันแล้วละ แต่ถ้าใครอยากทานต้องรีบมารับบัตรคิวกันหน่อยเพราะแค่เปิดร้านแปบเดียวก็รับบัตรคิวกันไปหลายคิวแล้วละเมนูซิกเนเจอร์ของร้านต้อง "ยำปากบาน" ชามใหญ่ยักษ์ทานได้ถึง 4 คน! ใช้วัตถุดิบในร้านทั้งหมดมายำ ราคา 500 บาท"ยำปูไข่ดอง" ดองปูไข่กันวันต่อวัน ยำกับน้ำยำและน้ำจิ้มซีฟู้ดแซ่บๆ "ยำหอยนางรม" น้ำยำจะใส่พริกเผาและผักกูด ทานคู่กับยอดกระถินและหอมเจียว"ยำสามไข่" ใช้ทั้งไข่ปู ไข่แมงดา และไข่ปลาริวกิว ตามมาทานยำแซ่บๆแบบนี้กันได้ที่ "ร้านน๊อตโตะ ยำปากบาน" ต.ตะกาดเง้า อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี เปิดตั้งแต่เวลา 10.00-19.00 น. (หยุดทุกวันพุธ) / เปิดให้จองคิวเวลา 10.30 น. / โทร. 08-9561-7292
ราดหน้าตาโก๊ะ ราดหน้าเตาถ่านในตำนานของชุมแสง
ดูกรงกรรมแล้วไปตามรอยของอร่อยๆกันที่ "ร้านราดหน้าตาโก๊ะ" ร้านในตำนานของตลาดชุมแสง จ.นครสววรค์ เปิดมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2510 อดีตใช้เตาถ่านในยังไงปัจจุบันก็ยังใช้อยู่ราดหน้าจึงกลิ่นหอมเตาถ่าน ทั้งน้ำซุปและหมูหมักก็มีสูตรเฉพาะทำให้น้ำซุปมีรสหวานกลมกล่อมและเนื้อหมูที่นุ่ม โดยเฉพาะลูกชิ้นปลากรายของขึ้นชื่อ จ.นครสวรรค์ ด้วยเสน่ห์เฉพาะตัวแบบนี้ทำให้ราดหน้าตาโก๊ะเป็นที่โด่งดังในตลาดชุมแสงมาอย่างยาวนาน"ราดหน้าเส้นใหญ่ลูกชิ้นปลาปราย" จัดเต็มทั้งลูกชิ้นปลากราย หมูหมัก หมูแดง เคล็ดลับอยู่ที่น้ำซุปและหมูหมักที่มีสูตรเฉพาะ"ผัดซีอิ๊วเส้นหมี่หมูหมัก"มาตามรอยกรงกรรมทานราดหน้าอร่อยๆหอมเตาถ่านได้ที่ "ร้านราดหน้าตาโก๊ะ" ถ.แสงรังษี อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ / เปิดตั้งแต่เวลา 10.00 - 16.00 น. / โทร. 0-5628-2880
ข้าวแกงบ้านผู้ใหญ่ลี ร้านในตำนาน โก๋หลังวังต้องกิน
"ร้านข้าวแกงบ้านผู้ใหญ่ลี" ถือเป็นตำนานย่านวังบูรพาที่เปิดขายมากว่า 50 ปี หรือที่รู้จักในชื่อ "ข้าวแกงจิ๊กโก๋หลังวัง" ทีเด็ดจะอยู่ที่ผัดเผ็ดต่างๆซึ่งจะใช้พริกแกงทำเองทั้งหมด รสชาติจัดจ้าน และยังมีกับข้าวให้เลือกมากกว่า 20 อย่างในแต่ละวัน ขายดีกันตั้งแต่เช้าพอบ่ายๆก็ขายหมดซะแล้ว ใครอยากไปลองต้องรีบไปอุดหนุนกันแต่เช้าเลยเมนูขายดี"ผัดเผ็ดปลาดุก" เมนูขายดี ทำเสร็จปุ๊บก็ขายหมดอย่างรวดเร็ว "หอยลายผัดพริกเผา"มาย่านวังบูรพาอย่าลืมมาอุดหนุน "ร้านข้าวแกงบ้านผู้ใหญ่ลี" ซอยเจริญกรุง 6 ถนนเจริญกรุง เปิดตั้งแต่เวลา 06.00-15.00 น. (หยุดวันอาทิตย์) โทร.08-4044-1673
มื้อนี้เราจะขอพาไปอร่อยกับเมนูก๋วยเตี๋ยวแบบฟินๆ ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวลุงหนั่น ร้านนี้เค้ามีทั้งก๋วยเตี๋ยวแบบน้ำข้นที่รสชาติเข้มข้นอร่อยถึงใจ และแบบน้ำตก(ใส่เลือด) จะสายเนื้อ หรือสายหมูก็ฟินได้เลยจ้าเส้นหมี่หมูน้ำตก (ราคา 60 บาท)ที่นี่เค้าจะมีเต้าหู้ยี้ให้เราทานกับก๋วยเตี๋ยวน้ำตกด้วยแหละ ใส่ไม่ต้องเยอะมาก ก็ได้ความหอมของเต้าหู้ยี้ เหมือนทานสุกี้น้ำตก อร่อยไปอีกแบบเลยละคะเส้นหมี่เนื้อน้ำข้น (ราคา 70 บาท)รวมเนื้อลวก (ราคา 60 บาท)บะหมี่เนื้อแห้ง (ราคา 70 บาท)
หน่องริมคลอง เมนูไข่ข้นสะท้านพุง
หน่องริมคลอง เมนูไข่ข้นสะท้านพุง เปรี้ยวปากมาถึงร้านนี้ทั้งเราก็ขอจัดเมนูไข่ข้นเด็ดประจำร้านมาให้ชิมกันค่ะ โอ๊ยแค่แอดคิดถึงตอนถ่าย ก็หิวขึ้นมาเลยค่า...ไข่ข้นปู : ไข่ข้นเนื้อเนียน & เนื้อปูแน้นๆ โอ๊ยอยากกลับไปทานอีกค่ะคุณขา เนื้อปูมานาแบบเป็นตัวเป็นตน ไม่ใด้มาเป็นวิญญาณแต่อย่างใด คือเลิศจริง ไรจริงกะเพรากุ้งราดไข่ข้น : ได้ฟีลความผัดกะเพราที่แตกต่าง เป็นอีกเมนูที่แอดอยากให้ลองค่ะกะหล่ำปลีผัดน้ำปลาโปะไข่ข้นกุ้ง : คนเลิฟกะหล่ำปลีผัดน้ำปลาอยู่แล้ว แอดขอให้ลองเมนูนร้เลยค่ะ เด็ดจริงๆที่ร้านหน่องริมคลองจะมีอาหารตั้งแต่ราคา 50 บาทไปถึงหลายร้อยบาท ซึ่งราคาก็สมกับวัตถุดิบที่เขาใช้อยู่ค่า
เดินมายังไม่ทันถึงร้านกลิ่นไก่ย่างหอมๆก็ลอยมาแตะจมูกซะแล้ว วันนี้เปรี้ยวปากเลยขอพามาตามหากลิ่นหอมนี้กันที่ร้าน "ส้มตำเจ๊โส" ร้านส้มตำรสเด็ดแซ่บลืมฝีมือของเจ๊โสเจ้าของร้านใครอยากมาทานที่ "ร้านส้มตำเจ๊โส" อย่าลืมโทรมาจองโต๊ะและไก่ย่างเพราะทั้งคิวและโต๊ะนั้นแน่นจริงๆ ด้วยตัวร้านที่มีขนาดไม่ใหญ่นักและยิ่งช่วงกลางวันคนแน่นรอกันเป็นสิบๆคิว แต่ต้องขอการันตีความอร่อยทั้งปีกไก่ย่างขึ้นชื่อและความแซ่บของส้มตำฝีมือเจ๊โสเมนูแซ่บๆจากร้านส้มตำเจ๊โส"ปีกไก่ย่าง (19 บาท)" เมนูเด็ดประจำร้าน ปีกไก่สดเนื้อนุ่มหอมเครื่องเทศ ย่างบนเตาถ่าน หนังกรอบแห้งกำลังดี "ตำป่า (60 บาท)" รวมทั้งหน่อไม้ ผักกาดดอง หอยเชอร์รี่ นำมาตำรวมกับมะละกอ มะเขือเทศ และปูนาดองเค็ม ทีเด็ดเพิ่มความนัวต้องยกให้น้ำปลาร้าสูตรเฉพาะของทางร้าน "ตำข้าวโพดผลไม้ (60 บาท)" ข้าวโพดต้มสุกตำรวมกับหลากหลายผลไม้สด "ซุปหน่อไม้ (45 บาท)" "น้ำตกคอหมูย่าง"มาชิมปีกไก่ย่างหอมๆกันได้ที่ร้าน "ส้มตำเจ๊โส" สีลมซอย3 ซอยพิพัฒน์2 เปิดตั้งแต่เวลา 10:30-18:00 น. (หยุดทุกวันอาทิตย์ ) โทร.08-5999-4225
ต้อยก๋วยเตี๋ยวเรือ ก๋วยเตี๋ยวเรือระดับตำนานกว่า 54 ปี
"ต้อยก๋วยเตี๋ยวเรือ" ก๋วยเตี๋ยวเจ้าดังแถวอนุสาวรีย์ที่น้ำปรุงแซ่บเด็ดถึงใจจนหลายคนติดอกติดใจ มาในราคาเพียงชามละ 15 บาท เท่านั้นเอง!เมนูมีทั้งก๋วยเตี๋ยวน้ำตกและต้มยำ เส้นก็มีให้เลือกถึง 5 แบบ (เส้นเล็ก, เส้นหมี่, บะหมี่, วุ้นเส้น, เส้นใหญ่)มาตามรอยก๋วยเตี๋ยวเรือรสแซ่บเด็ดได้ที่ร้าน "ต้อยก๋วยเตี๋ยวเรือ" ซอยวัดมะกอก ถนนราชวิถี เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 08:00-17:00 น. หรือติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 08-1619-1925
ห้องอาหารพูนเลิศ ข้าวหน้าไก่ระดับตำนาน
มาตามหาข้าวหน้าไก่ในตำนานที่ห้าแยกพลับพลาไชยอย่าง "ห้องอาหารพูนเลิศ" สูตรต้นตำรับแท้จีนกวางตุ้งที่สืบทอดมาจนถึงรุ่นที่ 3 เปิดมากกว่า 100 ปีแล้ว จุดเด่นอยู่ที่น้ำราดข้าวหน้าไก่ที่ยังคงสูตรเดิม การันตีความอร่อยด้วยลูกค้าที่แน่นร้านทั้งขาประจำและขาจร"ข้าวหน้าไก่ (ธรรมดา 40 บาท)""บะหมี่ราดหน้าไก่ (40 บาท)""โกยซีหมี่ (60 บาท)"ตามรอยความอร่อยของข้าวหน้าไก่ได้ที่ "ห้องอาหารพูนเลิศ" ร้านตั้งอยู่ที่ห้าแยกพลับพลาไชย เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เปิดตั้งแต่เวลา 9.00-17.00 น. (หยุดทุกวันจันทร์) ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 0-2688-9254
เจ๊เนี้ยวก๋วยเตี๋ยวไทยสวรรคโลก
เจ้าถิ่นย่านสวรรคโลกแนะนำให้ชาวเปรี้ยวปากมาฝากท้องกันที่ร้าน "เจ๊เนี้ยวก๋วยเตี๋ยวไทยสวรรคโลก" ร้านเก่าคลาสสิกที่เปิดขายมานานกว่า 40 ปี เจ๊เนี้ยวบอกว่า ขายมาตั้งแต่ชามละ 3 บาท จนปัจจุบันชามละ 25 บาท เท่านั้นเอง!ทีเด็ดของก๋วยเตี๋ยวสวรรคโลกอยู่ที่น้ำหมูแดงเข้มข้นที่ราดลงในก๋วยเตี๋ยวจึงทำให้ก๋วยเตี๋ยวสวรรคโลกแตกต่างจากก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย ทั้งน้ำหมูแดง หมูแดง กระเทียมเจียว เกี๊ยว และเครื่องทุกอย่างเจ๊เนี้ยวทำเอง สด ใหม่ ตลอด"ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กแห้ง" ในก๋วยเตี๋ยวแห้งเจ๊เนี้ยวใส่น้ำตาลปี๊บลงไปซึ่งเข้ากันได้ดีกับน้ำราดหมูแดงที่หวานๆ หอมๆ อีกด้วย"ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กต้มยำ" แซ่บถึงเครื่องแทบไม่ต้องปรุงใครมาเดินเที่ยวสวรรคโลกเหนื่อยๆแวะเติมพลังกันได้ที่ร้าน "เจ๊เนี้ยวก๋วยเตี๋ยวไทยสวรรคโลก" ถ.หน้าเมือง ต.เมืองสวรรคโลก เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 9.00-15.30 น. หรือติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 0-5564-1743
ก๋วยเตี๋ยวกระเพาะหมูลุงจิตร บ้านรักไทย จังหวัดพิษณุโลก
ของดีของหมู่บ้านรักไทยต้องยกให้กับร้านก๋วยเตี๋ยวบ้านๆแต่ความอร่อยยาวนานกว่า 40 ปี กับร้าน "ก๋วยเตี๋ยวกระเพาะหมูลุงจิตร" ด้วยรสชาติก๋วยเตี๋ยวที่อร่อยถูกปากโดยเฉพาะเมนูกระเพาะหมูที่นุ่มกำลังดี สด สะอาด ไม่มีกลิ่น เหล่าลูกค้าจึงติดใจมาทานกันอย่างต่อเนื่อง ราคาก็เพียงชามละ 30 บาทเท่านั้น!"เส้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกระเพาะหมูแห้ง""เส้นเล็กต้มยำกระเพาะหมู""ร้านก๋วยเตี๋ยวกระเพาะหมูลุงจิตร" ตั้งอยู่ที่บ้านรักไทย อ.เนินมะปราง ร้านเปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 8.30-16.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 08-6203-9866
"ข้าวต้มปลาสะพานเหลือง" ร้านเด็ดที่ไม่มีสาขาที่ไหนด้วยข้าวต้มสูตรของพ่อเจ๊หมวยเจ้าของร้าน ถือเป็นเจ้าเก่าที่พิถีพิถันทั้งการคัดสรรวัตถุดิบและเคี่ยวน้ำซุปให้หอมอร่อยนานหลายชั่วโมง "ข้าวต้มไข่ปลา (150 บาท)" "ข้าวต้มปลากะพง (เนื้อปลา 150 บาท/ท้องปลา 200 บาท)" "ข้าวต้มรวมมิตร (200 บาท)" มีทั้งเซี่ยงจี๊ กระเพาะหมู หอยนางรม และบะเต็ง "ยำหัวปลา (200 บาท)""ร้านข้าวต้มปลาสะพานเหลือง" อยู่ตรงข้ามซอยจุฬาฯ 30 ถนนบรรทัดทอง ร้านเปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 16.00-23.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร.08-7419-2265
"โจ๊กสามย่าน" โจ๊กเจ้าดังที่มาเปิดสาขาที่ถนนบรรทัดทอง ถ้าพูดถึงโจ๊กสามย่านแล้วสิ่งแรกที่ต้องคิดถึงก็คือหมูชิ้นใหญ่ๆ ที่ทางร้านจะหมักหมูก่อน 1 วัน เพื่อให้เข้าเนื้อดังนั้นเนื้อหมูก็จะนุ่มและมีรสชาติในตัว นอกจากหมูที่เด็ดแล้วตัวเนื้อโจ๊กก็เนียนมาก โจ๊กธรรมดาราคา 40 บาท เพิ่มไข่ไก่ลวก 45 บาท เพิ่มไข่เค็มหรือไข่เยี่ยวม้า 50 บาท"โจ๊กรวมไข่ไก่ลวก (45 บาท)""โจ๊กรวมไข่เยี่ยวม้า (50 บาท)""โจ๊กสามย่าน สาขาบรรทัดทอง" อยู่ที่ซอย จุฬาลงกรณ์ 6 ถนนบรรทัดทอง ร้านเปิดทุกวัน รอบเช้าตั้งแต่เวลา 05.30-10.00 น. รอบเย็นตั้งแต่เวลา 15.30-22.00 น. ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม โทร. 09-1719-7836
ชอนมัน (Cheonman) กับหลากหลายเมนูสตรีฟู้ดจากเกาหลี
สายอาหารเกาหลีต้องห้ามพลาดกับร้าน "ชอนมัน(Cheonman)" ที่มีหลากหลายเมนูสตรีฟู้ดของเกาหลีมารวมไว้แบบถึงเครื่อง วัตถุดิบสั่งตรงมาจากเกาหลีเพื่อคงรสชาติแบบต้นฉบับเอาไว้การตกแต่งร้านก็เป็นสไตล์เกาหลีแนวสตรีทๆ แม้แต่อุปกรณ์อย่างกระทะ จาน ชาม ช้อนยังส่งตรงมาจากเกาหลีอีกด้วย "ซุปกิมจิ (119 บาท)""ไก่ทอดชีสกระทะร้อน (259 บาท)" มีทั้งแบบซอสเผ็ดและซอสหวาน"จูกูมิ (499 บาท)" เมนูปลาหมึกผัดซอสกับหมูสไลด์ เสิร์ฟพร้อมข้าวผัดแบบกรอบและไข่กุ้งเด้งเต็มปาก "ร้านชอนมัน(Cheonman)" อยู่ซอยจุฬาลงกรณ์ 5 ตรงข้ามสวนหลวงสแควร์ ร้านเปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 15.00-23.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร.06-2556-6526
ตามกลิ่นหอมกันมาจนถึงร้าน "ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่แอน" ร้านก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ที่เปิดมานานกว่า 42 ปี การันตีความอร่อยระดับมิชลินสตาร์ สาขา BIB Gourmand 2 ปีซ้อน ปี 2018 และ ปี 2019"ก๋วยเตี๋ยวคั่วรวมมิตร" ตัวเส้นด้านนอกกรอบแต่ด้านในยังคงความนุ่มและหอมกลิ่นกระทะ "ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ไข่อบ""เกาเหลารวมซุปมะนาวดอง"ร้าน "ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่แอน" อยู่ที่ถนนหลวง ก่อนถึงสี่แยกโรงพยาบาลกลาง นั่งตุ๊กๆมาจาก MRT สามยอดเพียง 5 นาที ก็ถึงร้านแล้ว ร้านเปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 16.00-00.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0-2621-5199
TokyoHot ขนมโตเกียวหลากไส้สุดครีเอท
ร้านขนมโตเกียวร้านนี้จะทำให้ทุกคนต้องลบภาพจำของโตเกียวแบบเดิมๆไปเลยกับร้าน "Tokyo Hot (โตเกียวฮอท)" ร้านขนมโตเกียวที่มีตั้งแต่ไส้เบสิกไปจนถึงไส้ทาโก้ จนกลายเป็นขนมฟิวชั่นหลากสีสัน และรับรองว่าเครื่องแน่นแบบไม่มีหวง"ขนมโตเกียวฮอต" ไส้ต้มยำกุ้ง เครื่องต้มยำขิงข่าตะไคร้ใบมะกรูดผสมกับซอสต้มยำที่เข้ากันกับกุ้ง"ขนมโตเกียวไส้ทาโก้" เครื่องทาโก้แบบฉบับเม็กซิกันลงไปแบบครบเครื่องทั้งหัวหอม มะเขือเทศ และผักกาดแก้ว ราดด้วยซอสรสเข้มข้น"ขนมโตเกียวไส้บราวนี่สังขยาไข่เค็ม""ขนมโตเกียวไส้ไก่ย่างบาร์บีคิวหม่าล่า" ความเผ็ดร้อนที่ต้องลอง ไก่ย่างเสิร์ฟมาคลุกเคล้ากับสับปะรด มะเขือเทศ เจือรสชาติให้หอม และร้อนแรงอีกนิดด้วยขิง ก่อนจะโรยผงหม่าล่าลงไปเพิ่มความเผ็ดร้อน"ขนมโตเกียวไส้กะเพราหมูสับไข่เจียว" ไข่เจียวหนา ๆ ก่อนจะวางกะเพราหมูสับรสเข้มคลาสสิกลงไปลิ้มลองความอร่อยของหลากหลายไส้โตเกียวสุดครีเอทกันได้ที่ร้าน "Tokyo Hot (โตเกียวฮอท)" อยู่ที่ซอยเจริญกรุง 24 ถนนเจริญกรุง ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 13.00-19.00 น. (หยุดทุกวันอาทิตย์) สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08-1583-0408
ครัวเถื่อนเถื่อน อาหารจานเดียว อิ่ม อร่อย คุ้มค่า
อาหารจานเดียวต้องไปโดนฉบับเปรี้ยวปากต้องอร่อย คุ้มค่า และสดใหม่ วันนี้ขอนำเสนอร้าน "ครัวเถื่อนเถื่อน" ที่มาแรงในโซเชียลด้วยคาแรคเตอร์เถื่อนๆ ของเจ้าของร้านประเดิมเมนูแรกด้วย "ข้าวไข่ข้นลาวาซอสมันกุ้ง (80 บาท)" เมนูนี้ใครชอบกินมันกุ้งต้องชอบ ใส่มันกุ้งมาเยอะมาก เป็นพริกเผาผัดกับซอสมันกุ้งและหมูสับราดลงบนไข่ข้น"ข้าวไข่ข้นตับกระเทียมนมสด (90 บาท)" จานนี้ตับจะมีความแรร์เพื่อที่ตับจะได้นุ่ม ทานคู่กับซอสสุดเข้มข้น"ข้าวไข่ข้นจัมโบ้ลาวามหาสมุทร (100 บาท)" ทะเลผัดพริกเผาทั้งหอยแมลงภู่ หมึกชิ้นโต ผัดกับพริกเผาสูตรทางร้านราดบนไข่ข้นนุ่มๆ โดยที่ร้านจะไม่ใช้พริกสดแต่จะใส่พริกแห้งแทน ยิ่งเพิ่มความแซ่บเข้าไปอีก"ฟัวกราส์ ซอสเบอร์รี่ (100 บาท)" "ร้านครัวเถื่อนเถื่อน" อยู่ปากซอยแบริ่ง 37 ร้านสีเหลืองๆ ตั้งเป็น Pop up อยู่ซ้ายมือ ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 11.00-21.00 น.(หยุดทุกวันพุธ) สอบถามเพิ่มเติม โทร. 09-3515-9144
โตจังอ๋อง บะหมี่จับกังกุ้งแม่น้ำชามยักษ์
อาหารจานเดียวที่ฮอตฮิตในโซเชียลกับเมนูสุดอลังการอย่าง บะหมี่จับกังกุ้งแม่น้ำ ที่เสิร์ฟมาในชามยักษ์หลากไซส์จากที่ "ร้านโตจังอ๋อง" ด้วยคุณภาพคับแน่นของกุ้งแม่น้ำจากอยุธยาเผามันเยิ้มๆ "ร้านโตจังอ๋อง" มาจากชื่อพี่น้องเจ้าของร้านทั้ง 3 คน ที่ว่ากันว่าเป็นบะหมี่จับกังแบบไฮโซด้วยท็อปปิ้งแน่นๆ ที่คุ้มค่าคุ้มราคาแน่นอน "บะหมี่จับกังกุ้งแม่น้ำเซ็ทเอ (138 บาท)""บะหมี่จับกังทรงเครื่องไฮโซเซ็ทบี (188 บาท)""บะหมี่จับกังทรงเครื่องไฮโซเซ็ทซี (368 บาท)""บะหมี่จับกังจัมโบ้... โอ้โห... ไฮโซ! (698 บาท)"มาพิสูจน์ความอร่อยกันได้ที่ร้าน "โตจังอ๋อง" ร้านตั้งอยู่ที่ ถ.หลานหลวง ซอย 4 รอบเช้า ร้านเปิดทั้งหมด 2 รอบ คือ รอบเช้า ตั้งแต่เวลา 10.00-14.30 น. และรอบเย็น ตั้งแต่เวลา 17.00-20.00 น. (หยุดทุกวันเสาร์) สอบถามเพิ่มเติม โทร. 09-6868-5151
"ป้าน้อยก๋วยเตี๋ยวต้มยำสุโขทัย" ร้านระดับตำนานขวัญใจชาวสวนพลูที่มีเส้นให้เลือกหลากหลาย เพราะนอกจากเส้นธรรมดาๆ ที่เคยเห็นกันทั่วไปแล้วยังมี เส้นโซบะสด โซบะกรอบ เซี่ยงไฮ้ เส้นแก้ว เส้นขนมจีน อีกด้วย และทีเด็ดอยู่ที่น้ำซุปต้มยำที่ใส่น้ำพริกเผาสูตรโบราณทำสดใหม่วันต่อวัน อร่อย ครบรส แบบไม่ต้องปรุงเพิ่มกันเลยทีเดียว "โซบะกรอบต้มยำน้ำตก (40-45 บาท)" เป็นทั้งต้มยำและน้ำตกในชามเดียว เส้นโซบะกรอบใส่ก๋วยเตี๋ยวที่ยังไม่เคยเห็นที่ไหน เครื่องก๋วยเตี๋ยวใส่มาแน่นๆ ทั้งซี่โครงหมูตุ๋นที่ตุ๋นกับเครื่องยาจีน 9 ชนิด หมูสับที่ป้าน้อยผัดรวนกับกระทะ นอกจากนี้ยังมีตับ หมูนุ่ม ลูกชิ้น เครื่องแน่นชามจริงๆ"ก๋วยเตี๋ยวต้มยำเส้นขนมจีน (40-45 บาท)" เส้นขนมจีนเข้ากันได้ดีกับน้ำต้มยำ และอีกทีเด็ดของชามนี้อยู่ที่น้ำพริกเผาสูตรโบราณทำสดใหม่วันต่อวัน"ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กต้มยำ (40-45 บาท)" เครื่องแน่นๆ ตัวน้ำซุปต้มยำเผ็ดเปรี้ยวครบรสเด็กเส้นมาตามรอยความอร่อยกันได้ที่ "ร้านป้าน้อยก๋วยเตี๋ยวต้มยำ" อยู่ที่ซอยนราธิวาสราชนครินทร์ 15 ร้านเปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 11.30-17.30 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08-1208-0070
"ร้านตุ้งแฉ่เตาถ่าน" ย่านบรรทัดทอง ที่ใช้เตาถ่านในการทำอาหารเพื่อคงความหอมให้กับเมนู และเมนูไฮไลท์ของที่นี่ต้องยกให้กับ "ราดหน้านมสด" ที่นอกจากจะใช้เตาถ่านทำอาหารแล้วยังใช้น้ำมันหมูในการปรุงอาหารด้วย ซึ่งนี่ก็เป็นเคล็ดลับที่สืบทอดมาจากอากง เอามาพัฒนาและสานต่อ อย่างกากหมูเจียวเพื่อจะใช้น้ำมันก็เอามาให้ลูกค้าให้ทานเล่นคู่กับเมนูแบบเพลินๆ ได้ และความพิเศษของทุกเมนูอยู่ที่ หมูหมัก ที่ยังคงความเป็นหมู ไม่ได้นุ่มจนเกินไป หมักกันแบบธรรมชาติด้วยซีอิ๊วและสมุนไพรจีนที่ช่วยให้หมูนุ่ม และที่สำคัญทุกเมนูไม่ใส่ผงชูรสด้วย"เหลาะหนีหมู (50 บาท)" เป็นราดหน้านมสด เกิดจากความชอบเจ้าของร้านที่ลองเอานมข้นจืดมาใส่ในน้ำราดหน้า ตัวน้ำราดจะมีรสชาติครีมๆ ไม่เหนียวจนเกินไป ลูกค้าบางคนก็บอกว่าคล้ายๆ ทานคาโบนาร่าในเวอร์ชั่นราดหน้า"เส้นใหญ่ราดหน้าต้มยำ (60 บาท)" เมนูนี้จะมีทั้งความเป็นราดหน้าและต้มยำผสมผสานกัน"เส้นหมี่ผัดซีอิ๊ว (50 บาท)" เมนูสร้างชื่อของร้าน จากการผัดด้วยเตาถ่านจะทำให้เส้นไม่สูญเสียความชื้นและสุกโดยทั่วกัน ค่อยๆ คั่วให้ตัวเส้นเปลี่ยนสีแล้วใส่ซีอิ๊วดำเพื่อเพิ่มความหอม"ร้านตุ้งแช่เตาถ่าน" ตั้งอยู่ที่ถนนบรรทัดทอง ตรงข้ามซอยจุฬาฯ 12 และ 14 ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น. (หยุดทุกวันอาทิตย์) สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08-5341-5294
มาบางกระเจ้าทั้งทีจะพลาดอาหารอร่อยๆ ที่คนบางกระเจ้าแนะนำไม่ได้เลย นั่นก็คือร้าน "ข้าวหมกไก่บังมัด" ในตำนานที่ว่ากันว่าไม่ถึงเที่ยงก็หมดแล้ว มาช้าคืออดที่ร้านมีทั้งข้าวหมกไก่ทอดและไก่ต้มโดยที่ร้านจะหุงข้าวและหมกไก่แยกกัน เริ่มจากการนำเครื่องเทศต่างๆ ไปผสมกับไก่แล้วนำไปหม่า การหม่า คือ การนำไปตุ๋น ต้ม ให้เครื่องเทศข้าวเนื้อและไก่นุ่ม เป็นชั่วโมงแล้วจึงตักไก่ขึ้นมาพัก แล้วนำน้ำตรงนี้ไปหุงข้าวต่อ กลิ่นเครื่องเทศของที่ร้านจะไม่แรงและทีเด็ดของข้าวหมกไก่อยู่ที่น้ำจิ้ม จะเคี่ยวด้วยน้ำส้มสายชู เกลือ น้ำตาลเข้าด้วยกัน แล้วปั่นพริกกับผักใส่ทีหลัง รสชาติจะไม่หวานมาก ทานกับข้าวแล้วเข้ากันได้ดีเลย"ข้าวหมกไก่ทอด (50 บาท)""ข้าวหมกไก่ (50 บาท)"นอกจากนี้ยังมีซุปร้อนๆ ไว้ซดทานคู่กับข้าวหมกไก่อีกมากมาย ทั้งซุปไก่ (45 บาท), ซุปเนื้อ (75 บาท) และซุปหางวัว (110 บาท)ใครมาบางกระเจ้าอย่าลืมแวะมาเติมความอร่อยกันได้ที่ "ร้านข้าวหมกไก่บังมัด" ร้านตั้งอยู่ทางไปตลาดบางน้ำผึ้ง เยื้องซอยเพชรหึงษ์ 23 ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 7.00-13.30 น. (หยุดทุกวันจันทร์) สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0-2815-1328
ทอดมันกวางตุ้งสีนวล ทอดมันโบราณชิ้นยักษ์
มาย่านเจริญกรุงแน่นอนว่าต้องนึกถึงเหล่าเมนูสตรีทฟู้ด และห้ามพลาดเลยกับความอร่อยระดับตำนานกว่า 30 ปี "ร้านทอดมันกวางตุ้ง สีนวล" ร้านทอดมันโบราณสูตรกวางตุ้ง ชิ้นใหญ่เท่าฝ่ามือ ด้วยส่วนผสมของเนื้อปลาอินทรีย์แท้และปรุงรสตามสูตรเฉพาะของทางร้านพร้อมทานกับข้าวสวยร้อนๆ ได้เลยทอดมันกวางตุ้งมีทั้งแบบ "ทอดมันกวางตุ้งสูตรดั้งเดิม (ชิ้นละ 10 บาท)" และแบบ "ทอดมันกวางตุ้งสูตรผสมพริกแกง (ชิ้นละ 10 บาท)""ขนมจีบฮ่องเต้ /จีบปู-จีบกุ้ง (ไม้ละ 50 บาท)""ซาลาเปาทอด /ไส้ครีม,ไส้หมูแดง,ไส้หมูสับ (ลูกละ 35 บาท)"มาเที่ยวเจริญกรุง ชมงานศิลป์ เดินเล่นแล้วหิวๆ ก็แวะมาทานทอดมันร้อนๆ กันได้ที่ร้าน "ทอดมันกวางตุ้งสีนวล" ร้านอยู่ถนนเจริญกรุง ตรงข้ามโรบินสันบางรัก ร้านเปิดทุกวันเวลา 8.00-19.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 06-2701-1807
เฟิงจู-หมูเจริญ เกี๊ยวซ่าหน้าเปิด
อีกร้านห้ามพลาดย่านเจริญกรุงที่เรียกได้ว่าทั้งฮอตและคลาสสิกจริงๆ นั่นก็คือร้าน "เฟิงจู-หมูเจริญ" ร้านเล็กๆ ที่เหมือนยกร้านเกี๊ยวสไตล์ฮ่องกงมาไว้กลางเจริญกรุง ได้ฟินกับเกี๊ยวหลากไส้แถมยังมีมุมถ่ายรูปเก๋ๆ อีกด้วยเกี๊ยวของที่ร้านไม่ใช่เกี๊ยวแบบจีบเยอะๆ แต่เป็นเกี๊ยวหน้าเปิดแบบโชว์ไส้ให้เห็นว่าไส้ทะลักออกมาจริงๆ ตัวเกี๊ยวมีให้เลือกทั้งหมด 7 ไส้ดั้งเดิม (ชิ้นละ 12 บาท) เป็นหมูผสมกับสารพัดผัก ทั้งผักกาด กะหล่ำปลี คะน้า กุยช่าย ต้นหอม ปรุงรสแบบดั้งเดิมใช้ซีอิ๊ว เกลือ และน้ำตาลสามก๊ก (ชิ้นละ 12 บาท) ไส้หมูผสมกับผัก เพิ่มเติมด้วยสามเกลอ คือ พริกไทย กระเทียม และรากผักชีเห็ด 5 อย่าง (ชิ้นละ 12 บาท) ไส้นี้คล้ายไส้ในซาลาเปาเห็ดหอม มีเห็ดหูหนูดำ เห็ดหูหนูขาว เห็ดเข็มทอง เห็ดหอม และเห็ดนางฟ้าหมาล่า (ชิ้นละ 12 บาท) รสชาติเผ็ดร้อนตามสไตล์หมาล่าแกงฮังเล (ชิ้นละ 12 บาท)พริกเผา (ชิ้นละ 15 บาท) รสชาติพริกเผาแบบไทยๆ ที่ทางร้านนำไปคั่วเองลาบไม่เลือด (ชิ้นละ 15 บาท) รสชาติออกทางเหนือ คล้ายลาบคั่วไม่ใส่เลือดมาลองชิมเกี๊ยวซ่าหน้าเปิดไส้ล้นๆ กันแบบนี้ได้ที่ร้าน "เฟิงจู-หมูเจริญ" อยู่ที่ท่าเรือสี่พระยา โรงแรม Royal Orchid Sheraton ร้านเปิดทุกวันเวลา 11.00-19.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 06-2264-4661
หมูต่ำ หมูปลาร้าราชดำเนิน หมูย่างหอมๆ และน้ำพริกปลาร้ารสเด็ด
"หมูต่ำ หมูปลาร้าราชดำเนิน" ร้านหมูปลาร้า เจ้าเด็ดเจ้าดัง คิวแน่นยาวตลอดทั้งคืน ขายดีแค่ไหนก็ไม่ขึ้นราคา หมูย่างอร่อยๆ จะทานให้ฟินต้องทานคู่กับน้ำพริกปลาร้าสับ เข้มข้น นัวสะใจ แกล้มด้วยผักต่างๆ ฟรีจัดเต็มไม่อั้นร้านหมูปลาร้าราชดำเนินที่ลูกค้านิยมเรียกกันว่า "หมูต่ำ" เพราะติดปากมาจากการที่ทางร้ายเคยแจกจ่ายเสื่อให้ลูกค้าได้ปูนั่งรอและกินหมูปิ้งกันริมฟุตบาท แต่ด้วยรสชาติของหมูปลาร้าและน้ำพริกปลาร้าสับสุดจัดจ้านทำให้ลูกค้าทั้งขาจรและขาประจำต่างมาต่อคิวรอซื้อกลับไปทาน"หมูปลาร้า (ไม้ละ 15 บาท)/ "เนื้อย่าง (ไม้ละ 20 บาท)"อิ่มอร่อยกับ "ร้านหมูปลาร้า ราชดำเนิน" อยู่ซอยหน้าโรงเรียนสตรีวิทยา ร้านเปิด 19.00-03.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08-9225-5811
ถึงหน้าร้อนทีไรเมนูที่พลาดไม่ได้ก็คือข้าวเหนียวมะม่วง เปรี้ยวปากขอเสิร์ฟความอร่อยอย่างเค้กข้าวเหนียวมะม่วงจากร้าน "ข้าวเหนียวมะม่วงเจ๊เตียง" การันตีความอร่อยที่ขายมากว่า 30 ปี และขายมะม่วงกว่า 100 กิโลกรัมต่อวันเลยทีเดียว เมนูข้าวเหนียวมะม่วงของทางร้านใช้มะม่วงน้ำดอกไม้ที่ส่งตรงจากสวนในอำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี ทุกวัน ส่วนข้าวเหนียวมูลจะเป็นสูตรโบราณที่ตกทอดมา ตัวข้าวเหนียวมีให้เลือก 3 สี คือ สีขาว, สีม่วงอัญชัน และสีเขียวใบเตย"เค้กข้าวเหนียวมะม่วง (2 ปอนด์ 450 บาท)""เค้กข้าวเหนียวมะม่วงลาวามะพร้าวอ่อนกะทิสด (690 บาท)" อัดแน่นด้วยข้าวเหนียวและมะม่วงที่จัดเรียงเป็นดอกไม้สวยงาม ทีเด็ดอยู่ที่มะพร้าวอ่อนกะทิสดสูตรของทางร้าน หอมมันสุดๆ"คัพเค้กดอกไม้ข้าวเหนียวมะม่วง (65 บาท)""เค้กข้าวเหนียวมะม่วงสามเหลี่ยม (ชิ้นละ 85 บาท/ 10 ชิ้นครบ 1 วัง ราคา 850 บาท) "เป็นเมนูคลายร้อนที่ทานแล้วสดชื่นมากๆ ใครอยากหาเมนูสดชื่นทานช่วงหน้าร้อนมากันได้ที่ "ร้านข้าวเหนียวมะม่วงเจ๊เตียง" ถนนสุทธิสารวินิจฉัย-วิภาวดี ร้านเปิดทุกวัน 09.00-20.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08-6553-0567 หรือติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง Line@: @jtiang
โจ๊กลุงยุทธ วัดพุทธบูชา โจ๊กบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ไม่ธรรมดา
ถ้าพูดถึงอาหารเช้าหลายๆ คนคงต้องนึกถึงเมนูโจ๊กใส่ไข่ร้อนๆ กันอย่างแน่นอน และโจ๊กร้านนี้ไม่ใช่โจ๊กธรรมดาแต่เป็นโจ๊กบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปใส่ไข่! ที่เปิดขายมากว่า 30 ปี แล้วกับ "ร้านโจ๊กลุงยุทธ วัดพุทธบูชา" "ลุงยุทธ" เจ้าของร้านโจ๊กลุงยุทธเล่าให้ฟังว่า เปิดขายโจ๊กมากว่า 30 ปี เดิมขายแต่เมนูโจ๊กธรรมดาแต่แถวนี้สมัยก่อนนักเรียนชอบมานั่งทานกันเยอะ บางคนข้ามไปซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาให้ลุงยุทธต้มให้ทาน จึงกลายเป็นที่มาของโจ๊กบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป จนติดปากกันไปหลายรุ่น ใครอยู่ที่ไหนก็ต้องมาลองชิม ถือเป็นเจ้าแรกๆ เลยที่ทำแบบนี้"โจ๊กหมูบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป (ไม่ใส่ไข่ 35 บาท/ใส่ไข่ 40 บาท)""โจ๊กหมู (ไม่ใส่ไข่ 35 บาท/ ใส่ไข่ 40 บาท)"มาลองชิมโจ๊กบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกันได้ที่ "ร้านโจ๊กลุงยุทธ วัดพุทธบูชา" ร้านอยู่ในซอยวัดพุทธบูชา บางมด ร้านเปิดทุกวัน อังคาร,พุธ,ศุกร์,อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.30-18.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08-6351-4778
กระเพาะปลาขันน้ำ ของอร่อยย่านตลาดพลู
พามาอร่อยกันที่ตลาดพลู ย่านของอร่อยระดับตำนานและหนึ่งในนั้นก็คือร้านกระเพาะปลา ที่ได้ฉายาจากชาวโซเชียลว่า "ร้านกระเพาะปลาขันน้ำ" เป็นกระเพาะปลาหนังหมูน้ำข้น เสิร์ฟมาแน่นๆ ทั้งหน่อไม้ เลือดไก่ คอไก่ หนังหมู และไข่ไก่ลูกใหญ่เต็มใบ การันตีความอร่อย ขายมานานกว่า 50 ปี ที่มาของชื่อร้านกระเพาะปลาขันน้ำ เริ่มจากสมัยก่อนรุ่นพ่อรุ่นแม่ขายน้ำ ใครมาทานก็เสิร์ฟด้วยขันอลูมิเนียม พอทำร้านกระเพาะปลาขึ้นมาก็ใช้ขันเสิร์ฟน้ำ เหล่าลูกค้าจึงเรียกติดปากกันมาว่า "ร้านกระเพาะปลาขันน้ำ" ในสมัยก่อนกระเพาะปลาหาทานค่อนข้างยาก จะทานกันจริงๆ ก็ต้องไปถึงเยาวราชจึงเอาหนังหมูมาทำกินกันภายในบ้าน จนกลายเป็นเมนูนี้ขึ้นมาและเกิดเป็นร้านขายกระเพาะปลาหนังหมู ที่ร้านขายกระเพาะปลาวันนึงได้ประมาณ 5 หม้อใหญ่ และทีเด็ดอยู่ที่การทำด้วยเตาถ่านทุกขั้นตอน ทำให้ตัวกระเพาะปลาหอมมากยิ่งขึ้นกระเพาะปลาหนังหมู มีทั้งหมด 3 ราคา คือ 40, 50 และ 60 บาท สามารถเลือกได้ว่าจะใส่หรือไม่ใส่เส้นหมี่ก็ได้"ร้านกระเพาะปลาขันน้ำ " ตั้งอยู่ริมทางรถไฟตลาดพลู ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 10.00-14.00 น.(หยุดทุกวันอาทิตย์) สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08-7078-8238
"ร้านอรุณวรรณ" ร้านอาหารระดับมิชลินแต่ราคาไม่เกิน 100 บาท โดยเฉพาะเมนูตือฮวนระดับตำนาน ร้านนี้เปิดมานานกว่า 57 ปี เรียกได้ว่ารสชาติส่งต่อมาจากรุ่นสู่รุ่น อร่อยได้ไม่มีเปลี่ยน เมนูซิกเนเจอร์อย่างต้มตือฮวน มีเครื่องให้เลือกกว่า 10 อย่าง การันตีความอร่อยด้วยรางวัลมิชลิน สาขาบิบ กูร์มองด์ 2 ปีซ้อน ที่โดดเด่นในเรื่องคุณภาพ คุ้มราคา"ตือฮวนเกี่ยมฉ่าย (70 บาท)""ข้าวเหนียวตือฮวน (40 บาท)" เป็นข้าวเหนียวที่นำไปกรอกในไส้หมูแล้วนำไปนึ่ง เป็นเมนูโบราณจีนแต้จิ๋ว"หมูกรอบ (50 บาท)""เกี๊ยวทอด (8 ชิ้น 40 บาท/ 10 ชิ้น 50 บาท)""ร้านอรุณวรรณ" ตั้งอยู่เอกมัย 15 ร้านเปิด ตั้งแต่เวลา 09.00-15.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0-2392-5301
ร้านสตรีทฟู้ดอร่อยต้องกินกับเมนูที่คนไทยทุกคนต้องชอบ "ข้าวหมูทอด" ที่ดังมากๆ ในโซเชียลตอนนี้คือ "ร้านโคตรอร่อย by ป้าป้อม" ย่านรัชดาที่คนแถวนั้นไม่มีใครไม่รู้จักแน่นอน ทีเด็ดอยู่ที่ข้าวหมูทอดที่ทั้งกรอบนอกนุ่มใน มาพร้อมน้ำจิ้มแจ่วแซ่บๆ หมูทอดป้าป้อมเป็นสูตรโบราณ หมักแบบโบราณไม่มีผงชูรส ร้านเปิดมาได้ประมาณ 2 ปี ทุกอย่างป้าป้อมปรุงเองทำเองคนเดียวทำให้ได้ฟีลเหมือนทำกินเองที่บ้าน หมูทอดที่ร้านจะมี 2 แบบ คือ สามชั้น และสันคอหมู โดยสันคอหมูจะเน้นนุ่มและไม่ติดมันเยอะ ส่วนสามชั้นจะติดมันทานได้เพลินๆ และทุกเมนูจะเสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มแจ่วที่เป็นสูตรเด็ดของทางร้าน "ข้าวหมูทอดสันคอหมู (59 บาท)/ เพิ่มไข่ออนเซ็น (10 บาท)" "ข้าวหมูทอดสูตรป้าป้อม (59 บาท)/ เพิ่มไข่ดาวเยิ้ม (10 บาท)" "ร้านโคตรอร่อย by ป้าป้อม" ตั้งอยู่ที่ หลัง 7-11 ปากซอยรัชดา 48 ติดกับศูนย์เลเซอร์วิชั่น (Laser vision International) รัชโยธิน ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.30-20.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 09-4840-4732
ผัดไทยนรกแตก ลีลาจัดจ้านย่านวงเวียนใหญ่
"เมนูผัดไทย" เมนูสตรีทฟู้ดยอดฮิตประจำชาติไทยที่ดังไกลไปทั่วโลกกับร้าน "ผัดไทยนรกแตก" ลีลาจัดจ้านย่านวงเวียนใหญ่ และไม่ได้เด็ดแค่ลีลาเพราะรสชาติผัดไทยของที่นี่ก็เด็ดไม่แพ้กันร้านผัดไทยนรกแตก เปิดขายมากว่า 9 ปีแล้ว เดิมชื่อ "ร้านหนูหนูผัดไทย" แต่ด้วยความจัดจ้านทั้งรสชาติและลีลาของเจ้าของร้านทำให้ลูกค้าเรียกกันจนติดปากว่า ผัดไทยนรกแตก จุดเด่นของผัดไทยร้านนี้อยู่ที่ซอสมะขามที่มีความจัดจ้าน และตัวไข่แดงเค็มที่ผัดรวมไปกับเส้นจันท์เพื่อเพิ่มความนัว ทำให้ทุกอย่างลงตัวเข้ากันได้เป็นอย่างดี"ผัดไทยกุ้งสดกระทะร้อน (85 บาท)""ผัดไทยนรกแตก (100 บาท)" จัดเครื่องมาแน่นๆ ทั้งทาโร่กรอบ, เกี๊ยวกรอบ, ปลาหมึกกรอบ 3 รส, เม็ดมะม่วงหิมพานต์"ร้านผัดไทยนรกแตก" อยู่บนถนนลาดหญ้า ใกล้กับร้านสหกรณ์กรุงเทพ สาขาลาดหญ้า ร้านเปิด ตั้งแต่เวลา 17.00-22.00 น. (หยุดทุกวันจันทร์) สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08-1351-9390
ร้านข้าวมันไก่ระดับตำนานย่านสาธุประดิษฐ์ "ร้านข้าวมันไก่นายธง" เปิดมานานกว่า 35 ปี จุดเด่นอยู่ที่ใช้ไก่ตอนสด ไซส์ใหญ่ ส่งตรงจากฟาร์มนครปฐมทุกวัน ข้าวที่ใช้เป็นข้าวหอมมะลิ หุงแบบพายมือจะทำให้ขึ้นหม้อเป็นเม็ดสวย น้ำจิ้มเป็นเต้าเจี้ยวสามรส ทานคู่กับซุปมะนาวดองแก้เลี่ยน "ข้าวมันไก่ตอน (40-50 บาท) ""หมูกรอบสับ (100-150 บาท) ""ร้านข้าวมันไก่นายธง" อยู่สาธุประดิษฐ์ ซอย 58 ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-14.30 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08-1560-4282
เกี๊ยวกุ้งในตำนาน ย่านลาดกระบัง
อีกหนึ่งร้านตำนานย่านลาดกระบังที่บอกเลยว่าเด็กลาดกระบังต้องรู้จัก "ร้านเกี๊ยวกุ้งในตำนาน" เพราะชื่อนี้เด็กๆ นักศึกษาเป็นคนตั้งให้ แล้วก็สมชื่อจริงๆ เพราะเปิดมากว่า 50 ปีแล้วร้านเกี๊ยวกุ้งในตำนาน เปิดมากกว่า 50 ปี ป้าน้อยเจ้าของร้านเป็นรุ่นที่ 2 ต่อจากคุณยาย ที่มาของชื่อร้านมาจากเด็กนักศึกษาในย่านลาดกระบังตั้งให้ เพราะเป็นร้านเกี๊ยวกุ้งเจ้าแรกในย่านนี้ แน่นอนว่าทีเด็ดต้องอยู่ที่เกี๊ยวคือที่ร้านจะใช้กุ้งขาวตัวใหญ่ทั้งตัว รับสดๆ จากแพกุ้งทุกเช้า เกี๊ยวหนึ่งชิ้นจะใช้กุ้งทั้งตัว ขายได้วันละกว่า 2,000 ตัวเลยทีเดียว"เกี๊ยวกุ้งยำแห้งจัมโบ้ (60 บาท)""เกี๊ยวกุ้งต้มยำจัมโบ้ (60 บาท)"ใครอยากตามไปชิมเกี๊ยวกุ้งในตำนานของป้าน้อยไปกันได้ที่ "ร้านเกี๊ยวกุ้งในตำนาน" อยู่ที่ศูนย์อาหารซอยจินดา ลาดกระบัง 52 ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-23.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08-0926-1395
ถ้าพูดถึงซอยสุกร 1 หรือตรอกโรงหมู ชื่อนี้การันตีร้านอร่อยระดับตำนานเพียบ และหนึ่งร้านสตรีทฟู้ดรถเข็นแต่คนแน่นทั้งวันก็ต้อง "ร้านปอเปี๊ยะสดตรอกโรงหมู" ที่ทั้งแป้งนุ่ม ไส้แน่น น้ำราดเด็ด"ร้านปอเปี๊ยะสดตรอกโรงหมู" เปิดมากว่า 30 ปี ตั้งแต่รุ่นคุณพ่อจนตอนนี้เป็นรุ่นที่ 2 ซึ่งมีพี่ไก่เป็นคนดูแล ร้านเป็นรถเข็นเล็กๆ แต่ก่อนขายอยู่ตรงหน้าปากซอย ลูกค้าประจำก็จะเป็นที่รู้กัน มาสั่งกินกันทุกกลางวันที่ร้านเป็นปอเปี๊ยะสดสูตรโบราณ ที่ทุกคนพูดถึงความอร่อยเป็นเพราะตัวแป้งที่นุ่มซึ่งแป้งจะสั่งทำจากเจ้าประจำ ทำสดๆ ทุกวันไม่มีค้างคืน พอเป็นแป้งสดจะนุ่มอร่อย ส่วนน้ำราดคือสูตรเด็ด ออกหวานเค็มและมีรสเผ็ดนิดหน่อย พอกินกับพวกเครื่องด้านในจะเข้ากันพอดี ปอเปี๊ยะสดมีทั้งหมด 2 ราคา คือ แบบธรรมดา 35 บาท (มี 2 แถว) และ แบบพิเศษ 50 บาท (มี 3 แถว)ใครอยากมาชิมความอร่อยของปอเปี๊ยะสดมากันได้ที่ "ร้านปอเปี๊ยะสดตรอกโรงหมู" อยู่บริเวณปากซอยสุกร 1 ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 10.30-14.30 น.(หยุดทุกวันอาทิตย์และจันทร์) สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08-7815-0855
Unbranded Cafe คาเฟ่ขนมปังฝรั่งเศสแบบโฮมเมด
ร้านขนมอบชื่อดังที่สาวกขนมปังจะต้องชื่นชอบกับร้านนี้ "Unbranded Cafe" ที่เชฟโรสเจ้าของร้านตั้งใจรังสรรค์คาเฟ่นี้ขึ้นมาเพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสกับขนมปังฝรั่งเศสแบบโฮมเมดสูตรเฉพาะของที่นี่ ซึ่งตอนนี้ก็ได้มารวมอยู่ที่เดียวกับโรงแรมพระนครนอนเล่น ทำให้มีทั้งอาหารและขนมที่เดียวจบ"Croissant Cube (200 บาท)" ความพิเศษอยู่ที่รูปทรงสี่เหลี่ยมเหมือนขนมปังปอนด์ แล้วพอขึ้นรูปเป็นก้อนแบบนี้จะให้ความชุ่มฉ่ำของเนยยังอยู่ข้างใน มีความนุ่มและหอมเนย"Sourdough (เริ่มต้น 200 บาท)" เป็นขนมปังฝรั่งเศสเพื่อสุขภาพ มีวิธีการทำที่ค่อนข้างยาก ใช้เวลา 2-3 วัน ในการเตรียมวัตถุดิบ เป็นการหมักยีสต์เองแบบธรรมชาติ ซึ่งจะทำให้เส้นใยในขนมปังเบาบาง พอทานแล้วรู้สึกเบาท้อง ย่อยง่าย ส่วนตัวรสชาติขนมปังมีความเปรี้ยวและกรอบนอกนุ่มใน"แยมสูตร Homemade (เริ่มต้น 100 บาท)""ข้าวกะเพราหมูตุ๋น (135 บาท)" หมูตุ๋นถูกตุ๋นจนนุ่ม นานกว่า 5-6 ชั่วโมง ใส่พริกเสฉวนลงไปด้วย รสชาติกึ่งๆ พะโล้ แต่นำมาครีเอทตัดกับกะเพราที่มีรสชาติเผ็ดร้อน"ข้าวผัดมันกุ้ง (145 บาท)" ความอร่อยอยู่ที่การนำส่วนมันที่หัวของกุ้งมาผัดและเคี่ยวจนเป็นซอส ปรุงแต่งรสชาติตามสูตรของทางร้าน ทำให้จานนี้มีความหอมจากมันกุ้งมากและท็อปปิ้งด้วยไข่กุ้งอีกที"ไก่คั่วเกลือ (120 บาท)" เมนูทานเล่นที่เป็นเมนูเด็ดของทางร้าน เป็นปีกไก่ที่นำมาคลุกเคล้ากับเกลือและปรุงรสสูตรพิเศษของทางร้าน เพิ่มความหอมด้วยพริกไทยดำ แล้วก็นำไปทอดให้กรอบนอกแต่ข้างในกัดไปยังมีความฉ่ำอยู่"สปาเกตตีปลาสลิด (165 บาท)" มีความพิเศษอยู่ที่ปลาสลิดที่มาจาก จ.สุพรรณบุรี มีการดูแลอย่างพิถีพิถันตั้งแต่ขั้นตอนการแพ็ค ทำให้ปลามีความสดใหม่ สะอาด ในทุกครั้งที่ส่งมา เมนูนี้นำปลาสลิดมาทอดให้กรอบกำลังดี แล้วนำมาคลุกเคล้ากับเส้นสปาเกตตี รสชาติเข้มข้น มีความเผ็ดจากพริกแห้งเล็กน้อย หอมใบโหระพาและพริกไทยดำ"สปาเกตตี Unbranded café (165 บาท)" อีกหนึ่งเมนูที่ลูกค้าชอบกันมาก ทานเมนูนี้แล้วจะเหมือนได้ทานพิซซ่าในรูปแบบของสปาเกตตี เป็นสูตรโฮมเมดของทางร้านอีกเช่นกัน โดยจะใช้พิซซ่าซอสในสไตล์ของ Unbranded มีเบสคือมะเขือเทศที่สุกเต็มที่ นำมาผัดและเคี่ยวพร้อมเครื่องต่างๆ กว่า 4 ชั่วโมง"Smoothie Mixed Fruit สูตร Wake Me Up (125 บาท)" "Freddo Cappuccino (80 บาท)""ร้าน Unbranded Cafe X โรงแรมพระนครนอนเล่น" อยู่ที่เทเวศร์ ซอย 1 ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 09.00-18.00 น.(หยุดทุกวันจันทร์) สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08-2424-2265
อาอู๊กี่ บะหมี่เกี๊ยว สุดยอดบะหมี่กวางตุ้ง
"ร้านอาอู๊กี่ บะหมี่เกี๊ยว" บะหมี่กวางตุ้งออริจินัลจากจงซาน ประเทศจีน ที่ตกทอดมากว่า 100 ปี บะหมี่ที่นี่จะเส้นเล็กและทำจากไข่เป็ด ความพิเศษของเส้นประเภทนี้คือถ้าใส่น้ำซุปเข้าไปจะไม่ขึ้นอืดง่ายและสีจะไม่ซีดนอกจากเส้นบะหมี่ที่ทำเองแล้วเกี๊ยวก็ยังเป็นโฮมเมดอีกด้วย โดยเกี๊ยวจะมีทั้งหมด 2 ไส้ คือ 'เกี๊ยวกุ้งผสมหมู' จะใช้กุ้ง 1 ตัวต่อเกี๊ยว 1 ลูก ผสมกับน้ำมันงาทำให้หอมมากยิ่งขึ้น และ 'เกี๊ยวหมู' ซึ่งจะมีขนาดลูกที่เล็กกว่า'หมูแดง' ก็เด็ดไม่แพ้กันเพราะนำหมักเข้าเนื้อให้ดีก่อนจะนำไปย่างในเตาถ่านจนหอมและนุ่ม ท็อปด้วยปูก้อนแน่นๆ"บะหมี่หมูแดง (เริ่มต้น 40 บาท)""บะหมี่หมูแดงเกี๊ยวกุ้งเนื้อปู (170 บาท)"ใครที่ชื่นชอบเมนูบะหมี่ไข่ เครื่องแน่นๆ มากันได้ที่ "ร้านอาอู๊กี่ บะหมี่เกี๊ยว" ซอยเอกชัย 51 ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 08.30-17.00 น.(หยุดทุกวันพุธ) สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0-2453-2043
ใครผ่านไปผ่านมาบนถนนเส้นบางบอนจะต้องเห็นร้านสตรีทฟู้ดริมทางเด็ดๆ ที่เรียงรายกันโชว์ความสดของอาหารทะเลโดยเฉพาะร้านข้าวต้มซีฟู้ดอย่าง "ร้านข้าวต้มปลา ครัวบ้านเจ๊ใหญ่""ปูทะเลผัดพริกเกลือ (ราคาตามน้ำหนัก/ ราคากิโลกรัมละ 1,800 บาท)" ปูทะเลตัวใหญ่ๆ เนื้อแน่นๆ สั่งสดใหม่ทุกวันโดยปูที่ใช้เป็นปูทองหลาง แล้วนำมาผัดสไตล์พริกเกลือสูตรของทางร้าน"กุ้งแม่น้ำเผา (ราคาตามน้ำหนัก/ ราคากิโลกรัมละ 1,400-1,800 บาท)" เป็นกุ้งตกธรรมชาติ ส่งตรงจากอัมพวา จิ้มกับน้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรแซ่บของทางร้าน"ต้มยำปลาคัง (260 บาท)" ใช้ปลาคังแม่น้ำจากนครสวรรค์ จังหวัดนี้ขึ้นชื่อเรื่องปลาแม่น้ำ ชิ้นใหญ่ เนื้อแน่น"ข้าวต้มรวมมิตร (200 บาท)" มีทั้งปลาเก๋า กุ้ง และหอยนางรม"แกงคั่วไข่ปลาริวกิวหน่อไม้ดอง (400 บาท)" "ข้าวผัดมันปูพริกสด (100 บาท)" "ร้านข้าวต้มปลา ครัวบ้านเจ๊ใหญ่" อยู่ริมถนนกาญจนาภิเษก ติดประกันสังคมเขตพื้นที่ 7 ร้านเปิดวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 14.00-23.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เปิดตั้งแต่เวลา 12.00-23.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08-9033-8767
ข้าวแกงป๋าทวี หลากหลายเมนูเด็ดโดนใจ
มาถึงย่านพรานนกก็ต้องแวะมา "ร้านข้าวแกงป๋าทวี" ร้านข้าวแกงชื่อดังที่เปิดมานานกว่า 80 ปี พิถีพิถันในการเลือกใช้วัตถุดิบ อาหารทะเลก็ส่งตรงมาจากมหาชัยวันต่อวัน เมนูมีให้เลือกแต่ละวันไม่ต่ำกว่า 40-80 เมนู หมุนเวียนกันออกมาเรื่อยๆ และราคาก็ไม่แรง ข้าวราดแกง 1 อย่าง 35 บาท ข้าวราดแกง 2 อย่าง 40 บาท และกับข้าวเริ่มต้นถุงละ 40 บาท"หมูเค็ม (ขีดละ 60 บาท)" เมนูเด็ดที่อร่อยขึ้นชื่อของร้าน ตัวหมูเค็มจะใช้หมูสามชั้นไปรวนในน้ำมันจนสุก รสชาติไม่เค็มมาก หอม นุ่มกำลังดี"หมูหวาน (ขีดละ 60 บาท)" ส่วนหมูหวาน จะนำหมูลงไปทอดก่อนจะนำมาคลุกกับน้ำตาลเคี่ยวที่ปรุงรสไว้แล้ว เนื้อหมูนุ่ม รสชาติหวานๆ เค็มๆ"ปูจ๋าไข่เค็ม (ลูกละ 25 บาท)" ใช้กรรเชียงส่วนอกของปูขาว มาผสมกับเนื้อหมูและไก่บดปรุงรส ปั้นเป็นก้อนห่อไข่แดงเค็มไว้ตรงกลาง"กุ้งแม่น้ำทอดกระเทียม (5 ตัว 200 บาท)" ใช้กุ้งแม่น้ำสดๆ ตัวขนาดพอเหมาะ นำมาทอดกระเทียมพริกไทยหอมๆ"ปลาทูอบอ้อย (60-80 บาท)" ปลาทูสดตัวโตสั่งตรงจาแม่กลอง นำมาเคี่ยวและอบไปกับอ้อยนานถึง 4 ชั่วโมง จะได้ปลาทูอบอ้อยเนื้อนุ่ม แน่น มัน หวานกลมกล่อม"แกงจืดผักกาดดองกระดูกหมู""ร้านข้าวแกงป๋าทวี" อยู่ใกล้ซอยอิสรภาพ 46 ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 06.30 – 15.00 น. (หยุดทุกวันอาทิตย์) สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08-1916-5053
"ไก่ย่างจ่าปรีชา" ร้านไก่ย่างเตาถ่าน ตำนานย่านพรานนก จุดเด่นของร้านไก่ย่างจ่าปรีชาคือ ใช้ 3 เกลอ (กระเทียม, รากผักชี และพริกไทยขาว) มาตำรวมกันแล้วยัดใส่เข้าไปข้างในตัวของไก่ ย่างด้วยเตาถ่านหอมๆการย่างเตาถ่านแบบนี้จะทำให้ไก่ย่างยิ่งหนังกรอบ แต่เนื้อข้างในจะนุ่ม ไม่แข็ง รสสัมผัสดี น้ำจิ้มมีให้เลือกทั้งแบบน้ำจิ้มหวานและน้ำจิ้มแจ่ว"ไก่ย่างสูตรต้นตำรับ (1 ตัว ราคา 140 บาท/ ครึ่งตัว ราคา 70 บาท)""ร้านไก่ย่างจ่าปรีชา" ตั้งอยู่ในซอยอิสรภาพ 44 หรือ ซอยโรงพยาบาลธนบุรี 1 ร้านเปิด ตั้งแต่เวลา 10.00 – 17.00 น. (หยุดทุกวันจันทร์) สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08-7341-1864
มาตลาดพรานนกต้องห้ามพลาดแวะ "ร้านสุภาพข้าวเหนียวอร่อย" ที่เปิดขายมากกว่า 50 ปี หลักๆ ร้านนี้ขายเป็นข้าวเหนียวมูน ราดน้ำกะทิหน้าต่างๆ โดยที่ร้านจะใช้ข้าวเหนียวเขี้ยวงู เม็ดขาวยาวเรียว นึ่งออกมาแล้วจะสวย หอมตัวข้าวเหนียวมูน มีให้เลือก 3 อย่างคือ ข้าวเหนียวมูน(สีขาว), ข้าวเหนียวดำ และข้าวเหนียวขมิ้น(สีเหลือง) หน้าต่างๆ ของข้าวเหนียวมูน มีทั้งหน้ากระฉีก ที่ทำจากมะพร้าวทึนทึกเคี่ยวกับน้ำตาลปี๊บ, หน้ากลอย, หน้ากุ้ง และหน้าสังขยา เป็นต้น ทุกเมนูจะราดกะทิทั้งหมด กะทิจะเคี่ยวจนหวานมันกลมกล่อม นอกจากนี้ยังมีข้าวต้มมัดไส้ต่างๆ ที่ขายดีไม่แพ้กัน ทั้งข้าวต้มมัดไส้กล้วยถั่วดำ และไส้ถั่วเหลือง"ร้านสุภาพข้าวเหนียวอร่อย" อยู่ในตลาดพรานนก ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-18.30 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08-0619-8805
มาย่านพรานนกทั้งทีต้องมาลอง "ร้านต้นตำรับก๋วยเตี๋ยวแคะ พรานนก" ต้นตำรับเจ้าเก่าในซอยโรงพยาบาลธนบุรี 1 ตำนานความอร่อยที่เปิดขายมายาวนานกว่า 70 ปี'ก๋วยเตี๋ยวแคะ' เป็นอาหารประเภทเส้นของชาวจีนฮากกาหรือจีนแคะ ซึ่งเป็นชาติพันธุ์หนึ่งของชาวจีน คนจีนแคะจะนิยมทำเมนูจากเต้าหู้ จึงกลายมาเป็นเมนู 'ลูกชิ้นแคะ' ซึ่งก็คือเต้าหู้ขาวยัดไส้หมูปรุงรส"เส้นหมี่น้ำใสสูตรดั้งเดิม (ธรรมดา 40 บาท/พิเศษ 50 บาท)""เส้นเล็กเย็นตาโฟต้มยำแห้ง (ธรรมดา 40 บาท/พิเศษ 50 บาท)" เด็ดทั้งความแซ่บจัดจ้านของต้มยำ และหอมซอสเต้าหู้ยี้เย็นตาโฟที่ทางร้านทำเองอีกหนึ่งร้านตำนานย่านพรานก แวะมาพิสูจน์ความอร่อยกันได้ที่ "ร้านต้นตำรับก๋วยเตี๋ยวแคะ พรานนก" ตั้งอยู่ในซอยอิสรภาพ 44 หรือ ซอยโรงพยาบาลธนบุรี 1 ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.30-17.30 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 09-8247-8713
ก๋วยจั๊บอุบลนิยมโภชนา ก๋วยจั๊บญวนย่านรามคำแหง
ถ้าพูดถึงย่านที่ละลานตาไปด้วยร้านอาหาร ก็ต้องนึกถึง "ย่านรามคำแหง" ขึ้นมาในใจหลายๆ คนอย่างแน่นอน เพราะไม่ว่าจะตรอกซอกซอยไหนก็มีแต่ของอร่อย ที่สำคัญกินได้ทั้งวันเรียกว่า อร่อยแบบ 24 ชั่วโมง กันเลยทีเดียว"ร้านก๋วยจั๊บอุบลนิยมโภชนา" สูตรจากอุบลราชธานีแท้ๆ ตัวเส้นก๋วยจั๊บญวนใช้เป็นเส้นสด เส้นจะเหนียวนุ่ม กำลังดี และวัตถุดิบต่างๆ ก็ออเดอร์มาจากเจ้าดังของอุบลฯ เลย มั่นใจได้ว่าสด ใหม่ ตลอดแน่นอน ถ้าพูดถึงก๋วยจั๊บญวนก็ต้องนึกถึงหมูยอ หมูยอของที่ร้านก็ส่งตรงมาจากอุบลฯ เช่นกัน มีความกลมกล่อม หอมพริกไทย นุ่ม และเนื้อเยอะมาก นอกจากนี้ในชามยังมีหมูเด้งทำเอง ใช้เนื้อสันติดมัน เนื้อเลยเด้งนุ่ม และยังมีกระดูกหมูอ่อนที่ตุ๋นมาจนเปื่อยอีกด้วย"ก๋วยจั๊บญวน (ธรรมดา 50 บาท / เพิ่มไข่ 60 บาท)""ยำหมูยอ (70 บาท)" ยำจานต่อจาน ใช้มะนาวสด รสชาติจัดจ้าน"ร้านก๋วยจั๊บญวนอุบลนิยมโภชนา" ตั้งอยู่ในซอยรามคำแหง 24 แยก 10 ร้านเปิด ตั้งแต่เวลา 11.00-21.00 น. (หยุดทุกวันเสาร์) สอบถามเพิ่มเติม โทร. 06-1654-4295
ร้านในตำนานย่านรามคำแหง อภิโภชน์ ราดหน้ายอดผัก
อีกหนึ่งร้านตำนานย่านรามคำแหงที่เปิดมากว่า 40 ปี กับลีลาการผัดหอมๆ "ร้านอภิโภชน์ ราดหน้ายอดผัก" ร้านตั้งอยู่ในซอยรามคำแหง 24 และแน่นอนว่าเมนูเด็ดของร้านต้องเป็น 'ราดหน้า' ตามชื่อร้านอย่างแน่นอน แต่ทีเด็ดเลยก็คือน้ำราดหน้าที่ทั้งหอมหอมและรสชาติเข้มข้น ซึ่งแป้งหมักที่ใช้ในการทำน้ำราดหน้าก็เป็นสูตรพิเศษที่ทางร้านปรุงรสชาติไว้เรียบร้อยแล้ว"เส้นใหญ่ราดหน้า (45 บาท)""เส้นหมี่กรอบราดหน้า (50 บาท)"นอกจากเมนูราดหน้าแล้วที่ร้านยังมีเมนูอื่นๆ ให้เลือกอีกมากมาย ทั้งผัดซีอิ๊ว ข้าวหมูแดง ปอเปี๊ยะสด หมูสะเต๊ะ ครบเลยทีเดียวเป็นอีกหนึ่งร้านระดับตำนานในย่านรามคำแหง "ร้านอภิโภชน์ ราดหน้ายอดผัก" ร้านอยู่ในซอยรามคำแหง 24 ห่างจากปากซอย 100 เมตร ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 08.30-19.00 น.(หยุดทุกวันพฤหัสบดีที่ 4 ของเดือน) สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08-5929-3626, 0-2718-5004
อ้วนบะหมี่เกี๊ยวกวางตุ้ง สตรีทฟู้ดย่านประดิพัทธ์
"ร้านอ้วนบะหมี่เกี๊ยวกวางตุ้ง" อีกหนึ่งร้านสตรีทฟู้ดย่านประดิพัทธ์ที่เจ้าของคิดค้นสูตรเองและปรับปรุงจนได้ความอร่อยที่ขายมานานกว่า 15 ปี เด็ดทั้งน้ำซุป หมูแดง และเกี๊ยวที่รสชาติกลมกล่อมเนื้อเด้ง วัตถุดิบเกือบทุกอย่างที่ร้านเป็นคนทำเอง อย่างตัวหมูแดงก็หมักมาอย่างดีและย่างด้วเตาถ่านอังโล เกี๊ยวหมูก็หมักเป็นสูตรเฉพาะของทางร้าน น้ำซุปก็ใช้เล้งถึง 10 กิโลกรัม ต่อน้ำซุป 1 หม้อ และทีเด็ดสุดๆ ต้องยกให้กับน้ำซอสสูตรเด็ดของทางร้านที่ใช้ราดในเมนูบะหมี่แห้งนั้น ทำมาจากน้ำหมักหมูแดงซึ่งมีความเข้มข้น หอม อร่อยอยู่แล้ว เอาน้ำหมักนี้ไปเคี่ยวให้งวดขึ้นมา และใช้น้ำตาลอ้อยเป็นส่วนผสมในการทำน้ำหมัก เลยทำให้มีกลิ่นหอม และความหนืดขึ้นเกาะกับเส้นดีขึ้น "บะหมี่เกี๊ยวแห้งยำ ""บะหมี่เกี๊ยวแห้ง ""ร้านอ้วนบะหมี่เกี๊ยวกวางตุ้ง" อยู่ปากซอยประดิพัทธ์ 20 ร้านเปิด ตั้งแต่เวลา 17.00-00.00 น.(หยุดทุกวันจันทร์) สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08-0907-3069
ถ้าพูดถึงความอร่อย มีอยู่ติดขอบรถไฟฟ้าทั่วกรุงเทพฯ และหนึ่งในย่านที่ถูก Recommend ชวนให้มาเช็คอินความอร่อยกันบ่อยๆ นั่นก็คือ "สถานีพร้อมพงษ์" ย่านสุดชิคใจกลางเมืองที่รวมของอร่อยตั้งแต่สตรีทฟู้ดระดับตำนาน ไปจนถึงจุดเช็คอินใหม่ๆ ที่ใครไม่อยากเอ้าท์ต้องรีบมา และจุดเช็คอินแห่งใหม่ ไม่ไกลจาก BTS พร้อมพงษ์ ก็คือ "WRU Prompong" ที่รวมร้านอร่อยๆ ทั้งคาวและหวานเอาไว้ครบ เรียกได้ว่ามาแล้วครบจบในที่เดียวทั้งกินทั้งถ่ายรูปเลยร้านแรกเริ่มด้วย "ร้าน WRU Cafe & Laf Bar" ที่โดดเด่นเลยก็จะเป็น Clodbrew ซึ่งนอกจากจะใช้กาแฟคั่วเองแล้ว ในแต่ละเดือนทางร้านจะผลิตเมนู Clodbrew ที่เป็นซิกเนเจอร์ประจำเดือนออกมาอีกด้วย"Rwanda Coldbrew""Orange Tonic Espresso"ร้านถัดมาขอเอาใจสายหวานกับ "ร้าน Sourrgood และไอติมละมุน" แบรนด์น้องใหม่ภายใต้ไอติมละมุน โดยจุดเด่นจะอยู่ที่ใช้ผลไม้แท้ 100% ที่ส่งตรงมาจากสวนของเกษตรกร ไอศกรีมรสชาติละมุนแต่เนื้อแน่น"Yuzu Fizzy""ติมปังเนยสด""ร้าน Three Bears Pastry" อีกหนึ่งร้านที่มีทั้งของคาวและของหวาน "Waffle Bacon and Maple Syrup" และ "Young Coconut Cake"ปิดท้ายด้วยร้านบะหมี่ที่ทุกคนรู้ชื่อเสียงความอร่อยกันอยู่แล้ว "สว่างบะหมี่ก้ามปู" "ข้าวผัดหมูย่างเตาถ่าน" เมนูใหม่ที่มีเฉพาะที่ WRU Prompong ที่เดียว โดยจะใช้น้ำข้าวผัดสูตรพิเศษของทางร้านที่ต้องเคี่ยวด้วยเตาถ่านเท่านั้น ทำให้เวลาที่ทานได้กลิ่นหอมของเตาถ่านไปด้วย"บะหมี่เกี๊ยวกุ้ง หมูแดง ก้ามปู" เมนูซิกเนเจอร์ หอมกลิ่นถ่านอ่อนๆ จากหมูแดง และไฮไลท์อยู่ที่ก้ามปูใหญ่และสดมากและเมนูเครื่องดื่มหวานๆ "Super Supreme Milk Tea" ชานมไข่มุกบราวน์ชูการ์จาก Mr.Shakeเป็นโครงการที่น่ารักและมีครบทุกอย่างจริงๆ กับ "WRU Prompong" อยู่ในซอยสุขุมวิท 26 วันอาทิตย์-พฤหัสบดี เปิดตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น./ วันศุกร์-เสาร์ เปิดตั้งแต่เวลา 10.00-24.00 น.สอบถามเพิ่มเติม โทร. 09-9515-6954
"ร้านก๋วยเตี๋ยวลุงกับป้า" ก๋วยเตี๋ยวหมูบะช่อในตำนาน ขึ้นชื่อเรื่องรสชาติน้ำต้มยำที่ซี๊ดซ๊าดถึงใจและหมูบะช่อแน่นๆ ฟูๆ ตักตรงไหนก็เจอ ทีเด็ดของที่ร้านคือหมูบะช่อซึ่งเป็นหมูบดปรุงเครื่องจัดๆ และหมักทิ้งไว้ข้ามคืนให้เข้าเนื้อ และแน่นอนว่าเมนูเด็ดก็ต้องเป็นต้มยำที่มาแล้วต้องสั่ง"เส้นเล็กต้มยำ (ธรรมดา 50 บาท/ พิเศษ 80 บาท)""เกาเหลาจืด (ธรรมดา 50 บาท/ พิเศษ 80 บาท)""เส้นใหญ่เย็นตาโฟต้มยำ (ธรรมดา 50 บาท/ พิเศษ 80 บาท)""ไส้ลวก""ร้านก๋วยเตี๋ยวลุงกับป้า" อยู่ก่อนถึงซอยจรัญสนิทวงศ์ 49 ร้านเปิด ตั้งแต่เวลา 12.00-03.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08-9995-8359
ร้านเด็ดเมนูไฟลุกต้องยกให้ "ร้านสุกี้รสเด็ด ปากซอยสุขสวัสดิ์ 12" ร้านรสเข็นเล็กๆ แต่เด็ดจนคนมาต่อคิวกันยาวมาก "สุกี้แห้งรวม" ด้วยวิธีการผัดสุกี้แห้งแบบไฟลุก ทำให้ได้ความหอมของกลิ่นกระทะ ส่วนหมูก็หมักไว้ข้ามคืนจนนุ่ม และทีเด็ดอยู่ที่น้ำจิ้ม สูตรลับที่มีส่วนผสมกว่า 20 อย่างเลยทีเดียว ส่วนผสมหลักๆ ก็จะมี เต้าหู้ยี้ มะเขือเทศลูกใหญ่ ซอสพริก และกระเทียมดองใครที่ชอบทานสุกี้ แวะมาลองทานกันได้ที่ "ร้านสุกี้รสเด็ด" อยู่บริเวณปากซอยสุขสวัสดิ์ 12 ร้านเปิด ตั้งแต่เวลา 17.00-22.00 น. (หยุดวันจันทร์) สอบถามเพิ่มเติม โทร. 06-1569-0657
"หมึกย่าง แซ่บสะใจ" ร้านหมึกย่างรถเข็นที่ทั้งแซ่บ สด จี๊ด หมึกใหญ่เท่าหน้า ที่ร้านมีขายทั้งหมึกกระดองไซส์ใหญ่ยักษ์ หนักกว่า 2 โล, หนวดหมึกกระดองล้วนไซส์จัมโบ้, ไข่ใหญ่, ไข่เล็ก, หนวกหมึกสาย, คอหมึกหรือเอ็นหมึกน้ำจิ้มทานกับหมึกย่างของที่ร้านก็เด็ดเป็นน้ำจิ้มซีฟู้ดพริกแดง และน้ำจิ้มซีฟู้ดพริกเขียว ส่วนใครที่ไม่ทานเผ็ด ทางร้านก็มีน้ำจิ้มหวานให้เลือกอีกด้วย และก่อนที่จะนำหมึกไปย่างบนเตาก็จะมีการชุบซอสสมุนไพรก่อนย่างเพื่อให้มีรสชาติหวานนิดๆ พอทานกับน้ำจิ้มจะตัดรสกันได้อย่างพอดี"ไข่หมึก (มีให้เลือกทั้งไซส์เล็กและใหญ่)""หมึกยักษ์ (ราคาขึ้นกับขนาด ตั้งแต่ 120-170 บาท)"ตามมาแซ่บกับหมึกยักษ์กันได้ที่ร้าน "หมีกย่าง แซ่บสะใจ" ลาดพร้าวซอย 1 แยก 3 ร้านเปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 15.00-23.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08-0625-6924
เจ๊หมวยโภชนา ร้านอาหารตามสั่งกว่า 100 เมนู
ร้านอาหารตามสั่งที่ไม่มีชื่อร้าน แต่เปิดขายมากกว่า 30 ปี กับหลากหลายเมนูอร่อยกว่า 100 เมนู ถึงแม้จะไม่มีชื่อร้านแต่คนแถวนี้หรือลูกค้าประจำจะเรียกติดปากกันว่า "ร้านเจ๊หมวยโภชนา" ร้านนี้คุณภาพแน่นทั้งวัตถุดิบและฝีมือเจ๊หมวยที่ลงมือทำเองทุกจานจนต้องอร่อยบอกต่อ และถ้าใครอยากมาสามารถมาลง BTS สถานีบางบัว ให้สังเกตุซอยตรงข้าม ม.ศรีปทุม นั่งรถเข้าซอยมาเรื่อยๆ ร้านอยู่ใกล้กับลานกีฬาเคหะบางบัวเริ่มด้วยเมนูที่ขายดี นั่นก็คือ "กุ้งคั่วพริกไทยอ่อน (250 บาท)" กุ้งสดๆ เจ๊หมวยคัดเองที่ตลาดทุกเช้า ผัดให้หอมพริกไทย เอาน้ำราดคลุกข้าวรับรองว่าอร่อยเด็ด"แกงเขียวหวานหมูตุ๋น (150 บาท)" หมูตุ๋นทำเอง นุ่มละลาย"ฉู่ฉี่กุ้ง (250 บาท)" เมนูนี้ใช้หัวกะทิสดไม่ผสมเลย"ยำหอยดอง (150 บาท)" ใช้หอยดองเจ้าอร่อยจากราชบุรี เจ๊หมวยสั่งมาแล้วเอามายำเองสดๆ รับรองจะติดใจ"ปลากะพงนึ่งมะนาว (เริ่มต้น 250 บาท)" เมนูนี้จะทำปลามาเป็นชิ้นๆ จะได้ทานง่าย และน้ำจะเยอะออกแนวเป็นแกง สามารถซดน้ำได้"ผัดวุ้นเส้นชะอม (100 บาท)" อันนี้ทีเด็ด ชะอมจะคัดพิเศษเอาแต่ยอดมาใช้ เพราะกลิ่นจะไม่แรงและเวลาทานก็จะไม่แข็งด้วยมาตามรอยความอร่อยกันได้ที่ "ร้านเจ๊หมวยโภชนา" อยู่ติดกับลานกีฬาเคหะบางบัว ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 09.30-20.00 น. (หยุดทุกวันพุธ) สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08-6569-8403
ตำนานความอร่อยกว่า 25 ปี "ร้านนายจิว หมูแดง-หมูกรอบ" แน่นอนว่ามาถึงร้านทั้งทีเมนูที่ต้องสั่งก็คงเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากข้าวหมูแดงหมูกรอบ และนอกจากนี้แล้วยังมีเกาเหลาร้อนๆ ไว้ซดเป็นน้ำซุปให้คล่องคอได้อีกด้วยด้วยความพิถีพิถันของการทำหมูแดงหมูกรอบ ทำให้ขายหมูแดงหมูกรอบได้ถึงวันละ 100 กิโลกรัมเลยทีเดียว กว่าจะได้เป็นหมูกรอบอร่อยๆ ต้องใช้หมูสดย่างกว่า 5 ชั่วโมง แล้วนำมาทอดต่อให้หนังกรอบ เนื้อจึงนุ่มและหนังยังกรอบอยู่ ส่วนหมูแดงใช้เวลาย่างเกือบ 2 ชั่วโมง ซึ่งน้ำที่ได้จากการย่างหมูแดงก็เอาไปทำน้ำราดข้าวด้วย เข้มข้นหวานเค็มกำลังดี"ข้าวหมูแดงรวม (ธรรมดา 50 บาท/พิเศษ 60 บาท)""หมูแดง หมูกรอบ กุนเชียง (จานเล็ก 130 บาท/จานใหญ่ 200 บาท)""เกาเหลาเย็นตาโฟ (50 บาท)""เกาเหลาเลือดหมู (50 บาท)""ร้านนายจิว หมูแดง-หมูกรอบ" อยู่หน้าทางเข้าโรงแรมมารวยการ์เด้น ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-15.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 06-2828-7899
วันนี้เปรี้ยวปากขอพาทุกคนมาหาของอร่อยแบบจัดเต็มกันที่ย่านบางนา ในโครงการ "Foodie Market Bangna" แลนด์มาร์ครวมอาหารแห่งใหม่ในย่านนี้ มีร้านค้ากว่า 130 ร้าน ของกินละลานตาไปหมด"ร้าน AM-PM Carft" อยู่ที่โซน Night Market เต็นท์ 1 บล็อก B16 ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 17.00-22.30 น. (หยุดทุกวันจันทร์) สอบถามเพิ่มเติม โทร. 06-1408-9904"Super Junk (259 บาท)" เมนูรวมวัตถุดิบสุดอร่อยของร้าน ทั้งสะโพกไก่ทอด, แฮม, เบคอน, ไข่ดาว, แฮชบราวน์ ราดด้วยบัตเตอร์สก๊อต และชีสแบบจัดเต็ม 3 ชนิด"Underground Pork (140 บาท)" หมูบดกับพริกย่าง ราดด้วยชีส 3 ชนิด"ร้านเกี๊ยวเฮียล้อ" กับหลากหลายเมนูเกี๊ยวที่มีให้เลือกถึง 13 ไส้ ร้านอยู่ที่โซน Night Market ล็อก 37 ด้านหลังเวที เปิดตั้งแต่เวลา 16.00-21.00 น.(หยุดทุกวันจันทร์) สอบถามเพิ่มเติม โทร. 09-1886-8871เมนูเกี๊ยว ราคาเริ่มต้น 10-25 บาท มีทั้งเกี๊ยวกรรเชียงปู, เกี๊ยวอูนิ, เกี๊ยวไข่เค็ม, เกี๊ยวกุ้ง และอื่นๆ อีกมากมาย"ร้าน Thonggold ปาท่องโก๋ย่าง" ร้านของหวานที่อยากแนะนำ ความพิเศษของร้านนี้คือตัวปาท่องโก๋เขาจะนำไปทอดแล้วเอามาย่างเพื่อไล่น้ำมันอีกครั้ง ทำให้เพิ่มความกรอบของปาท่องโก๋เข้าไปอีก และนอกจากแป้งที่เลือกมาอย่างดีแล้ว ตัว Dipping Sauce มีตั้ง 8 รสชาติให้เลือก ทำสดใหม่ทุกวัน"ปาท่องโก๋ย่าง (ตัวเล็ก เริ่มต้นตัวละ 8 บาท/จัมโบ้ เริ่มต้นตัวละ 23 บาท)""สังขยาใบเตย (23 บาท)""ร้าน Thonggold ปาท่องโก๋ย่าง" อยู่ที่โซน Food Court ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 06.00-21.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08-4268-8299"ร้าน Chef ปลาเผา" ร้านปลาทับทิมเผาร้อนๆ จากจันทบุรีโดยฝีมือเชฟไฟแรงอย่าง 'เชฟบอส' ที่มีรางวัลระดับประเทศมาการันตี และที่สำคัญยังเคยร่วมงานกับเชฟระดับ MICHIELIN Start อีกด้วย จุดเด่นของปลาที่ร้านคือ ปลาต้องฉ่ำ เครื่องหอมเข้าเนื้อ น้ำจิ้มแซ่บ ผักสะอาด ตัวเครื่องสมุนไพรต่างๆ สับละเอียดและปรุงรสยัดไว้ด้านในตัวปลา ตอนทานสามารถควักเครื่องสมุนไพรตัวนี้มาทานได้เลย จะช่วยเพิ่มทั้งสัมผัส รสชาติ และกลิ่นได้ดี ส่วนด้านนอกจะชุบเกลือเกล็ดละเอียดจากสมุทรสาครทำให้มีรสเค็มนัว ไม่เหมือนเกลือสินเธาว์ที่จะเค็มโดด"เมี่ยงปลาทับทิม (เซตละ 250 บาท)""ร้าน Chef ปลาเผา" อยู่ที่โซน Night Market โซน C ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 17.00-22.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง https://www.facebook.com/Chefplapaw"Foodie Market Bangna" อยู่เยื้องกับเมกาบางนา อยู่ในซอยจรรยวรรธโซน Food Court เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00-19.00 น.โซน Liberty เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00-21.00 น.โซน Night Market เปิดตั้งแต่เวลา 17.00-23.00 น. (หยุดทุกวันจันทร์)
ถ้าพูดถึงย่านเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยของอร่อยในกรุงเทพ หนึ่งในนั้นก็คือ "ตลาดพลู" ที่ไม่ว่าจะมากี่ครั้งของกินก็ละลานตาไปหมด วันนี้เปรี้ยวปากเลยมาแจกพิกัด 5 ร้านเด็ดในตลาดพลูให้ทุกคนได้ไปลองชิมกันร้านแรกต้องบอกว่ามาช้าหมดอดกินแน่เลย นั่นคือ "ร้านกุยช่ายสะพานหัน สาขาตลาดพลู" เป็นร้านกุยช่ายระดับตำนาน สูตรกว่า 50 ปี สาขาแรกอยู่ที่สะพานหัน และเพิ่งมาเปิดสาขาตลาดพลูเมื่อไม่นานที่ผ่านมา ตัวแป้งของกุยช่ายเป็นสูตรพิเศษของทางร้านซึ่งโม่แป้งเอง น้ำจิ้มก็เด็ดใช้ซีอิ๊วคัดเกรดอย่างดีผสมกับน้ำเชื่อม และพริกน้ำส้มทางร้านก็ทำเอง กุยช่ายของร้านทำวันต่อวันไม่มีค้างคืนแน่นอนเพราะขายหมดทุกวัน วันนึงขายได้กว่า 1,000 ลูก และร้านกุยช่ายสะพานหันของจริงต้องเสิร์ฟใส่จานสังกะสีแบบนี้ เมนูกุยช่ายของที่ร้านมีทั้งแบบสี่เหลี่ยมและแบบกลม มีทั้งหมด 7 ไส้ คือ ไส้กุยช่ายแบบสี่เหลี่ยมและกลม, ไส้หน่อไม้, ไส้มันแกว, ไส้เผือก, เผือกเห็ดหอม, ขนมผักกาดไชเท้าทรงเครื่อง และเมนูยอดฮิต กุยช่ายตอกไข่ ตัวกุยช่ายของร้านจะเข้มข้น มีรสชาติในตัว หรือจะกินแบบนึ่งก็อร่อยแบบคลีนๆ หรือแบบทอดก็จะได้ความหอมของกระทะ"กุยช่ายตอกไข่ (45 บาท)""กุยช่ายกลม (ชิ้นละ 15 บาท)""กุยช่ายสี่เหลี่ยม (ชิ้นละ 15 บาท)""ร้านกุยช่ายสะพานหัน สาขาตลาดพลู" อยู่ที่ปากซอยเทอดไท 27 ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-20.30 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08-1642-4508ต่อกันด้วยของหวานร้านดังในตำนานของตลาดพลูที่ต้องมากิน "ร้านนิอ่าง น้ำแข็งไส ไอติมไข่แข็ง" ร้านเปิดมากว่า 50 ปีแล้วกับเมนูของหวานกว่า 20 อย่าง ทั้งไอศกรีม น้ำแข็งไส รวมิตร เครื่องดื่ม และที่ห้ามพลาดคือ ไอศกรีมกะทิ หวาน มัน หอม เนื้อเนียน ยิ่งเพิ่มไข่แดงยิ่งฟิน"ไอศกรีมไข่เค็มแข็งเบิ้ลไข่นิอ่าง (80 บาท)" เมนูยอดฮิตที่ขายดี นอกจากจะตอกไข่แดงสดๆ ลงไปคลุกในตัวไอศกรีมแล้ว ก่อนเสิร์ฟก็ตอกไข่แดงท็อปด้านบนอีกหนึ่งลูกและเพิ่มไข่แดงเค็มเนื้อหนึ่งลงไปอีก"ร้านนิอ่าง น้ำแข็งไส ไอติมไข่แข็ง" อยู่ที่ ซอยเทอดไท 25 เลียบทางรถไฟ ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 16.00-02.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08-0595-2033มาทานหมี่กระเฉดอร่อยๆ กันต่อที่ "ร้านฉอเล้ง หมี่กระเฉดตลาดพลู" จุดเด่นของร้านคือหมี่กระเฉดหอมๆ และเครื่องแน่น ชิ้นโตๆ มาถึงฉอเล้งถ้าไม่กินผัดหมี่กระเฉดก็ถือว่ามาไม่ถึง"หมี่ผัดกระเฉดรวมมิตร (120 บาท)" เมนูเด็ดของร้าน ใส่เครื่องจัดหนักถึง 7 อย่าง ทุกอย่างจะนำไปรวนให้สุกก่อนนำไปผัด และทีเด็ดคือน้ำพริกเผาสูตรพิเศษที่ทางร้านทำเอง มีความเผ็ดให้เลือกได้ถึง 5 ระดับ คือ เผ็ดหัวเปียก, เผ็ดปกติ, เผ็ดน้อย, เผ็ดของเด็ก และไม่เผ็ดเลย"หอยจ๊อโคตรปู (150 บาท)" อีกหนึ่งเมนูขายดี ใช้เนื้อปูก้อนส่วนอก เมนูนี้ทั้งทำเองและห่อเอง สามารถสั่งเป็นแพ็คแบบที่ยังไม่ทอดกลับไปทอดเองที่บ้านได้อีกด้วย"เบคอนคั่วพริกเกลือ (150 บาท)" เบคอนเนื้อนุ่มคั่วคลุกเคล้ากับกระเทียม และพริกสด ปรุงรสชาติจัดจ้าน"ออส่วนกระทะร้อน (120 บาท)" เป็นเมนูใหม่ของที่ร้าน เสิร์ฟบนกระทะร้อน ใช้หอยนางรมสด ตัวใหญ่ๆ และแป้งออส่วนเป็นสูตรพิเศษของทางร้านตามมาอร่อยกับหมี่กระเฉดกันได้ที่ "ร้านฉอเล้ง หมี่กระเฉดตลาดพลู" อยู่ใต้สะพานตลาดพลู ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00-23.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 06-2569-1465ตำนานร้านกาแฟ 100 กว่าปี ในย่านตลาดพลูที่มีขาประจำหลากหลายรุ่น "ร้านสุริยากาแฟ" โดยร้านมีจุดเริ่มต้นมาจากอากงที่โล้สำเภามาจากเมืองจีน มาหาบเร่ขายกาแฟอยู่แถบฝั่งธนฯ พอมารุ่นที่ 2 ก็ทำเป็นร้านขึ้นมาจนตอนนี้มีถึง 3 สาขา และสาขาตลาดพลูเป็นสาขาที่ 3 นอกจากกาแฟแล้วจุดเด่นที่ดังไม่แพ้กันคือ ชา ที่ร้านใช้ชาซีลอนพรีเมี่ยมนำเข้าจากศรีลังกา ซึ่งตัวนี้เคยประกวดได้ที่ 1 ของโลกหลายปีอีกด้วย เมนูร้อน (เริ่มต้น 12 บาท/ 15 บาท) และเมนูเย็น (เริ่มต้น 15 บาท/ 20 บาท)"ร้านสุริยากาแฟ" สาขานี้อยู่ที่สี่แยกตลาดพลู ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-21.30 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08-6321-6296ปิดท้ายด้วยร้านที่คนรักเมนูปลาจะต้องชอบ "ร้านเล็กหงษ์ ข้าวต้มปลา" ที่ตลาดพลู นอกจากเมนูข้าวต้มปลาแล้วทีเด็ดของที่นี่ก็คือ ซาชิมิปลาไทย ซึ่งไม่ค่อยจะได้เห็นกันสักเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะเป็นปลาจากประเทศญี่ปุ่นมากกว่าที่ทุกคนคุ้นเคย"คุณเอ" เจ้าของร้านเป็นนักตกปลาที่ไปมาเกือบทั่วทุกจังหวัดในประเทศไทยแล้ว ทำให้ได้ชิมเมนูปลาแต่ละพื้นที่จึงรู้สึกว่าวัตถุดิบทางทะเลของไทยมีเยอะและรสชาติดีไม่แพ้ต่างประเทศ ซึ่งคนส่วนใหญ่จะคิดว่าปลาเมืองนอกที่มีไขมันคือปลาชั้นดี แต่จริงๆ แล้วปลาบางชนิดของไทยที่ส่งออกไปต่างประเทศมีราคาสูงกว่าไทยหลายเท่าตัว และบางที่ในต่างประเทศก็ชอบปลาที่ไม่มีไขมันซึ่งจะเป็นปลาที่มีในไทยเพราะเมืองไทยเป็นเมืองร้อน ทำให้คุณเอรู้สึกเสียดายปลาไทยจึงนำมาทำอาหารและเกิดเป็นร้านนี้ขึ้นมา"ซาชิมิชุดมังกรแดง (150 บาท)" ประกอบด้วยปลาไทย 5 ชนิด คือปลากุดสลาด, ปลาเก๋าเพลิง, ปลาช่อนทะเล, ปลาโฉมงาม และปลาเรนโบว์รันเนอร์ ซึ่งเนื้อปลาแต่ละชนิดจะมีรสสัมผัสและเนื้อสัมผัสที่แตกต่างกันออกไป มีหอยสังข์และปลาหมึกรวมอยู่ในเซตนี้ด้วย"ข้าวต้มปลาดิบ" หรือข้าวต้มปลาเก๋า เสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำซุปร้อนๆ ราดลงไปบนปลาก็จะสุกทำให้ได้เทกเจอร์ของปลาที่ดีขึ้นและได้ความสดของปลา ซึ่งทางร้านจะใช้ปลาเก๋าไทยที่โตตามธรรมชาติโดยปลาเก๋าจะไม่ได้มีประจำที่ร้าน แล้วแต่ฤดูกาลว่าช่วงนั้นจะตกได้ปลาอะไร เพราะทางร้านจะรับซื้อปลาของคนที่ตกปลา ไม่ได้ซื้อจากแพปลา"ข้าวต้มปลาช่อนทะเล (60 บาท)""ยำหมูกรอบน้ำข้น (120 บาท)" ตัวหมูกรอบที่ร้านทำเองและดังไม่แพ้เมนูปลาใครที่ชอบทานปลาต้องไม่พลาด "ร้านเล็กหงษ์ ข้าวต้มปลา" อยู่ใต้สะพานตลาดพลู ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 14.00-02.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08-0246-8246
เป็นหนึ่ง ก๋วยเตี๋ยวต้มยำเย็นตาโฟ
"เป็นหนึ่ง ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ เย็นตาโฟ" ต้มยำรสเด็ด ปรุงสดใหม่ชามต่อชาม ในชามจะมีทั้งเกี๊ยวกุ้งและลูกชิ้นกุ้ง ลูกชิ้นปลาทำเอง เมนูก๋วยเตี๋ยวต้มยำทีเด็ดอยู่ที่น้ำพริกเผาทำเอง และวัตถุดิบที่สดใหม่ ตั้งแต่ลูกชิ้นหรือแม้แต่เครื่องปรุงต่างๆ"ก๋วยเตี๋ยวต้มยำน้ำข้น (55 บาท)" "ลูกชิ้นปลาซัวเถา (ลูกละ 5 บาท)" และ "ลูกชิ้นกุ้งแต้จิ๋ว (ลูกละ 6 บาท)""หอยจ๊อปูก้อน (ลูกละ 20 บาท)"ใครที่ชอบกินก๋วยเตี๋ยวต้มยำรสชาติจัดจ้านถึงใจ แวะมาทานกันได้ที่ "ร้านเป็นหนึ่ง ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ เย็นตาโฟ" อยู่ที่วงเวียนโอเดียน ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 08.00-19.00 น. (หยุดทุกวันอาทิตย์) สอบถามเพิ่มเติม โทร. 09-4365-6536
"ฮิมกีข้าวขาหมูในน้ำมะพร้าว" ขาหมูสูตรจีนแต้จิ๋วโดยจะตุ๋นขาหมูกับน้ำมะพร้าวและเครื่องยาจีน 13 ชนิด น้ำมะพร้าวจะทำให้ขาหมูเนื้อนุ่ม หอม ได้กลิ่นทั้งมะพร้าวและกลิ่นเครื่องยาจีน รสชาติอร่อยกลมกล่อมไม่ธรรมดาเพราะสูตรนี้สืบทอดมาจากบรรพบุรุษซึ่งเป็นเชฟจากเมืองจีนแท้ๆ และความมันจะน้อยกว่าข้าวขาหมูแบบทั่วไปอีกด้วย"ข้าวขาหมูเนื้อหนัง (เริ่มต้น 40 บาท)" จะใช้ขาหมูส่วนของขาหลัง นำไปต้มก่อนแล้วค่อยทอดเพื่อรีดน้ำมันออกจะทำให้หนังนุ่ม ฟู จากนั้นค่อยนำไปตุ๋นต่ออีก 3 ชั่วโมง และเครื่องเคียงอย่างผักกาดดองที่ร้านก็ทำเอง "ไส้พะโล้ (จานละ 50-100 บาท)" ไม่เหนียว นุ่ม ไม่มีกลิ่น โดยทางร้านจะใช้ส่วนของหัวไส้ซึ่งจะมีความหนา นำไปตุ๋นในน้ำซุปขาหมูกว่า 2 ชั่วโมง ทำให้รสชาติน้ำซุปซึมเข้าไปในไส้เลย"คากิ (80 บาท)" เมนูไฮไลท์ของร้าน ตุ๋นจนเข้าเนื้อเปื่อยนุ่ม"ร้านฮิมกีข้าวขาหมูในน้ำมะพร้าว" อยู่ที่ถนนเลียบคลอง 2 ซอย 14 ใกล้แยกซาฟารีเวิลด์ ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น. (หยุดทุกวันที่ 16 ของเดือน) สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08-6331-3283
แก้วกะเพราปู ร้านซีฟู้ดตามสั่งลับในพัทยา
ร้านลับประจำพัทยา "แก้วกะเพราปู" สวรรค์ของคนรักซีฟู้ดที่มีเมนูซีฟู้ดให้เลือกมากกว่า 60 เมนู ราคาก็ย่อมเยา เริ่มต้นจานละ 80 บาทเท่านั้นเอง และแต่ละไซส์ใหญ่ แซ่บ เด็ดสมคำร่ำลือ"กะเพราปู (กับข้าว ราคา 280 บาท/ ราดข้าว ราคา 80 บาท)" เมนูนี้ใช้ก้ามอ่อนปูม้าที่นึ่งแล้วมาผัดกะเพราสูตรเด็ดของทางร้าน โดยใช้พริกขี้หนูสวนและพริกยอดสนมาผสมกันเพื่อเพิ่มรสชาติความเผ็ด และใช้ใบกะเพราบ้านที่หอมกว่ากะเพราพันธุ์อื่นๆ"ต้มยำรวมมิตร (ราคา 220 บาท)" จัดเต็มมาทั้งกุ้ง ปลาหมึก และเนื้อปลา ทางร้านจะใส่ใบกะเพราลงไปด้วยเพื่อดับกลิ่นคาว และได้รสเผ็ดร้อนเพิ่มขึ้น"หอยเชลล์ผัดฉ่า (ราคา 250 บาท)" ความอร่อยของเมนูนี้อยู่ที่ความสด หวานของหอยเชลล์ไซส์ใหญ่ที่ส่งตรงมาจากสะพานปลา"กั้งทอดกระเทียม (ราคา 280 บาท)" ทางร้านเลือกใช้กั้งแก้วไซส์ใหญ่ที่แกะและนึ่งมาเรียบร้อยแล้ว มีทั้งความสดและหวานของกั้ง มาพร้อมกระเทียมเจียวที่ทางร้านเจียวใหม่ทุกวัน"ร้านแก้วกะเพราปู" อยู่ใกล้สี่แยกพัทยาเหนือ ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 09.30-15.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร 09-0083-1378
ร้านลับที่แอบซ่อนอยู่แถวๆ วัดราชบพิธ "ร้านคั่วไก่ป้าเพียร" เปิดมานานกว่า 47 ปี หอมกระทะตั้งแต่ปากซอย เพราะคุณป้าใช้เตาถ่านและกระทะทองเหลืองจึงมีความหอมเฉพาะตัว และทีเด็ดที่ทำให้ลูกค้าติดใจคือการคั่วได้ทุกเส้นไม่ใช่แค่เส้นใหญ่เท่านั้นนอกจากเส้นที่เด็ดแล้วยังมีหมูแดงที่หมักด้วยสูตรเฉพาะของทางร้านที่มีมาแต่โบราณ และตัวน้ำราดก็จะผสมน้ำหมูแดงลงไปด้วยเพื่อเพิ่มรสชาติและความกลมกล่อม ทำให้ซอสหมูแดงมีความเข้มข้นและรสชาติที่อร่อยไม่เหมือนใคร"เส้นใหญ่คั่วรวม" ที่ร้านจะเน้นคั่วมาแห้งๆ โดยเมนูคั่วรวมจะใส่มาทั้งไก่ หมึกกรอบ และหมูแดงแบบจัดเต็ม และ "บะหมี่คั่วรวม" พอเส้นบะหมี่ถูกคั่วมาจนแห้งเกรียมเลยมีความกรุบกรอบให้สัมผัสที่ดีมากตามมาอร่อยกันได้ที่ "ร้านคั่วไก่ป้าเพียร" อยู่ที่ตรอกวิสูตร ตรงข้ามวัดราชบพิธ ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 10.30-16.00 น. (หยุดทุกวันอาทิตย์) สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08-9178-7035
ร้านสตรีทฟู้ดขวัญใจคนย่านศรีนครินทร์ "ร้านกุ้งอบวุ้นเส้นคุณพลอย" ร้านเล็กๆ แต่รีวิวความอร่อยแน่น แถมลูกค้ายังสามารถเลือกได้ว่าจะเอาอะไรอบวุ้นเส้น มีทั้งหมูนุ่ม กุ้งขาว กุ้งแม่น้ำ ปูไข่ หมึก แล้วก็เห็ดต่างๆ หรือจะสั่งเป็นรวมมิตรก็ได้ เส้นก็มีให้เลือกถึง 2 แบบ คือเส้นกลมและเส้นแบน จะให้สัมผัสที่ต่างกัน"ปูไข่อบวุ้นเส้น (เริ่มต้น 200 บาท/ราคาตามน้ำหนัก)""กุ้งแม่น้ำอบวุ้นเส้น (150 บาท)""รวมมิตรอบวุ้นเส้น (100-150 บาท)"ใครที่อยากทานเมนูอบวุ้นเส้นอร่อยๆ มากันได้ที่ "ร้านกุ้งอบวุ้นเส้นคุณพลอย" อยู่หน้าโลตัสศรีนครินทร์ ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 16.30-21.00 น. (หยุดทุกวันอาทิตย์) สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08-0057-2739
วันนี้เปรี้ยวปากพามาเดินชิลย่านเก่าแก่อย่าง "ราชวัตร" ชี้เป้าร้านเด็ดที่การันตีความเก๋าด้วยตัวเลขอายุของร้านที่เก่าแก่แต่เก๋าทุกร้านแน่นอน ซึ่งย่านนี้มีคนพลุกพล่านทั้งวัน เพราะมีทั้งตลาด ทั้งร้านอร่อยริมสองข้างทาง ตั้งแต่เช้าไปจนถึงกลางคืน เสน่ห์ของย่านนี้นอกจากร้านอาหารแล้ว ริมสองฝั่งข้างทางยังเป็นตึกเก่ามีทั้งร้านขายของแบบสมัยเด็กๆ ร้านขายหนังสือ ร้านล้างรูป มาย่านนี้ใครชอบถ่ายรูปสไตล์วินเทจต้องชอบแน่นอนเริ่มกันที่ร้านแรกด้วย "ร้านสวัสดีราชวัตร" เป็นร้านที่ใครมาย่านนี้ต้องห้ามพลาด ร้านเปิดมาตั้งแต่ปี 2514 คุณยายสมรเจ้าของสูตรร้านสวัสดีราชวัตรเล่าถึงที่มาของร้านให้ฟังว่า 'แต่ก่อนที่บ้านเปิดโรงงานทำเส้นก๋วยเตี๋ยวมาก่อน ช่วงกลางคืนคุณยายจะทำเส้นก๋วยเตี๋ยว กลางวันยายก็จะเอาเส้นก๋วยเตี๋ยวมาทำเป็นก๋วยเตี๋ยวถังแตกขาย หลังจากนั้นก็เลยเปลี่ยนมาขายเป็นผัดไทย หอยทอดแทน แล้วก็มีขนมกุยช่าย ขนมผักกาดด้วย และชื่อร้านสวัสดีราชวัตร ก็มาจากชื่อร้านขายข้าวสารของพี่สาว พี่สาวมีร้านชายข้าวสารชื่อว่า สวัสดี แล้วพี่สาวมาเล่าให้ฟังว่าพอใช้ชื่อนี้แล้วขายดีมาก ยายมาเปิดร้านจึงตั้งชื่อว่า สวัสดีราชวัตร จะได้ขายดีแบบพี่สาวบ้าง'"ผัดไทยกุ้งสด (100 บาท)" ทางร้านใช้เส้นจันทน์เหนียวนุ่ม ผัดไทยของที่ร้านจะไม่มีน้ำซอสผัดไทยเตรียมไว้ จะเป็นการปรุงใหม่ทุกจาน รสชาติจัดจ้าน และใช้น้ำส้มแทนน้ำมะขาม"หอยแมลงภู่กระทะร้อน (120 บาท)" อีกหนึ่งเมนูไฮไลท์ สามารถเลือกระดับความกรอบของแป้งได้โดยใช้แป้งข้าวเจ้าและแป้งมันผสมกันเพื่อให้ได้ทั้งความกรอบและความเหนียว ส่วนน้ำจิ้มทางร้านใช้พริกจินดานึ่งแล้วปั่นผสมกับน้ำส้ม"ขนมกุยช่ายทอด (ชิ้นละ 10 บาท)" มีให้เลือก 3 ไส้ คือ เผือก มันแกว กุยช่าย "ขนมผักกาด (50 บาท/พิเศษ 60 บาท)" "ร้านสวัสดีราชวัตร" อยู่เยื้องตลาดราชวัตร ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-16.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0-2241-2096มาต่อด้วยอีกหนึ่งร้านเก๋าในย่านนี้ "ร้านวันสตาร์ เป็ดย่าง ราชวัตร" ร้านเป็ดย่างชื่อดังในย่านราชวัตร เปิดมากว่า 25 ปี ซึ่งทางร้านคิดสูตรขึ้นมาเองและเป็นสูตรของครอบครัวอีกด้วย "ข้าวหน้าเป็ด (50 บาท)" เป็ดย่างหอมเครื่องเทศ เพราะทางร้านหมักเป็ดเชอร์รี่กับเครื่องเทศทิ้งไว้ 1 คืน ก่อนนำมาย่างอีก 45 นาที ทำให้เป็ดเนื้อนุ่ม หนังบางกรอบ ที่สำคัญคือไม่มีกลิ่นสาบ"บะหมี่เป็ด (55 บาท)" เส้นบะหมี่ของทางร้านเป็นบะหมี่ไข่ สั่งทำพิเศษ และทีเด็ดอยู่ที่น้ำราดแบบเดียวกันกับน้ำราดข้าวหน้าเป็ด ใช้เครื่องเทศกว่า 10 ชนิด เคี่ยวกับน้ำซุปซี่โครงเป็ดเป็นเวลา 2-3 ชั่วโมงเลยอีกหนึ่งเมนูที่สั่งมาซดน้ำให้คล่องคอ "เกี๊ยวกุ้ง เป็ด หมูกรอบ" แป้งเกี๊ยวของที่ร้านสั่งทำพิเศษ แป้งจะบาง ส่วนกุ้งทางร้านจะนำไปหมักก่อนเอามาหอ่ น้ำซุปหวาน หอม อร่อย"ร้านวันสตาร์ เป็ดย่าง ราชวัตร" อยู่เยื้องตลาดราชวัตร ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.30-16.30 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0-2241-2506ทานของคาวไปแล้วต้องต่อด้วยของหวาน "ร้านขนมครกเข้าวัง" ที่เปิดขายมา 40 ปีแล้ว เดิมแต่ก่อนชื่อร้านว่าขนมครกลุงธนิต แต่ทางร้านได้มีโอกาสเข้าไปทำขนมครกถวายในวัง พอคนที่มาซื้อรู้ว่าร้านนี้เข้าไปทำถวายมา จึงเรียกชื่อร้านกันใหม่ว่า ขนมครกเข้าวัง แทนขนมครกของที่ร้านจะกรอบนอกนุ่มใน รสชาติละมุนลิ้น โดยเน้นที่กะทิ จะใช้มะพร้าวเจ้าเดียวกับที่ส่งเข้าวัง เป็นมะพร้าวจากทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ จะใช้หัวกะทิเพื่อความหอม มัน โดยมีหน้าขนมครกให้เลือกทั้งหมด 10 หน้า คือ ฝอยทอง, แปะก๊วย, เม็ดบัว, พุทรา, ลำไย, ลูกเกด, มะพร้าว, ผัก, เผือก และข้าวโพด"ร้านขนมครกเข้าวัง" อยู่หน้าร้านสวัสดีราชวัตร ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 17.00-22.00 น. (หยุดวันจันทร์) สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08-1916-0974ปิดท้ายด้วยขนมหวานอย่างบัวลอยที่ "ร้านบัวลอยไข่หวานทรงเครื่อง" ร้านเปิดมาตั้งแต่ปี 2540 โดยพี่อุ๊เจ้าของร้านบอกว่า 'พี่อุ๊เป็นคนชอบกินบัวลอย ตระเวนชิมบัวลอยตามหาร้านอร่อยไปเรื่อยๆ จนมาวันนึงคิดได้ว่าทำไมเราไม่เปิดร้านขายเองเลย จึงได้ลองทำสูตรบัวลอยของตัวเองขึ้นมา'เห็นสีสันอันสดใสของบัวลอยแล้ว สีที่ใช้เป็นสีจากธรรมชาติล้วนๆ โดยใช้แป้งข้าวเหนียวผสมกับผักผลไม้ต่างๆ เพื่อให้เกิดเป็นสีสัน อย่างเช่น สีเเหลืองมาจากฟักทอง, สีส้มมาจากแครอท, สีม่วงมาจากเผือกหรืออัญชัน และสีชมพูมาจากแก้วมังกร นอกจากสีสันของบัวลอยที่น่าทานแล้ว ทีเด็ดที่ทำให้เหล่าลูกค้าติดใจกันมากก็คือ ไข่หวานและท็อปปิ้งที่สามารถเลือกใส่ได้ตามชอบ โดยตัวไข่มีให้เลือกทั้งไข่หวานแบบสุกและไข่หวานแบบยางมะตูม เครื่องก็มีให้เลือกใส่เพิ่มอีก 4 อย่าง มีแปะก๊วย, เผือก, ข้าวโพด และมะพร้าว"บัวลอยไข่หวานทรงเครื่อง (ไข่เค็มและไข่หวาน 40 บาท)" ตามมาชิมบัวลอยสูตรโฮมเมดอร่อยๆ กันได้ที่ "บัวลอยไข่หวานทรงเครื่อง" อยู่ตรงข้ามตลาดราชวัตร ข้างป้อมตำรวจ ร้านเปิด ตั้งแต่เวลา 16.00-20.30 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08-9798-8644
ตำนานความอร่อยกว่า 50 ปี "ร้านห่านพะโล้ สาธุฯ 50" ร้านห่านพะโล้ตามแบบฉบับชาวจีนแท้ๆ สูตรมาจากอากง เด็ดทั้งห่านพะโล้และเป็ดพะโล้ โดยเป็ดของที่นี่ใช้เป็นเป็ดไล่ทุ่งที่มีมันน้อยและหนังบาง ห่านก็ไม่มีกลิ่นสาป เนื้อนุ่ม เด็ดจนบางวันขายดีของหมดก่อนถึงเวลาร้านปิดอีกด้วย"ห่านพะโล้ (ตัวละ 1,800.-)" และ "เป็ด (ตัวละ 560.-)""ข้าวหน้าห่านพะโล้ (80-100.-)" ห่านของทางร้านไม่เหม็น เนื้อนุ่ม เพราะทางร้านใช้วัตถุดิบสดใหม่ เลือกใช้ห่านไซส์ใหญ่โดยจะตุ๋นในน้ำพะโล้ถึง 1 ชั่วโมง และทีเด็ดอยู่ที่น้ำพะดล้ที่ตุ๋นเป็นสไตล์จีน คือเค็มนำและหอมเครื่องพะโล้ ส่วนน้ำราดที่แยกถ้วยมาให้ ทางร้านจะนำน้ำพะโล้มาปรุงเพิ่มโดยใส่ชะเอมลงไปด้วย"น้ำแกงมะระกระดูกหมู (50.-)""น้ำแกงดอกไม้จีน (60.-)""น้ำแกงรากบัว (70.-)"ตามมาอร่อยกับห่านพะโล้ได้ที่ "ร้านห่านพะโล้ สาธุฯ 50" อยู่ที่ซอยสาธุประดิษฐ์ 50 ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 09.30-15.00 น. (หยุดวันอาทิตย์) สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0-2294-3719
วันนี้เปรี้ยวปากพามาปักหมุดที่ "ย่านบางพลัด" อีกหนึ่งย่านที่มีร้านอร่อยๆ เรียงรายริมฝั่งถนนเพียบ รับรองว่าสายสตรีทฟู้ดจะต้องถูกใจกันอย่างแน่นอนเริ่มตะลุยความอร่อยด้วยตำนานกว่า 50 ปี ของย่านบางพลัด "ร้านข้าวต้มปลาซังฮี้" ที่มาย่านนี้ไม่แวะไม่ได้ ด้วยความเด็ดของปลาที่ทางร้านใช้ทำ เป็นปลาน้ำดอกไม้ที่เนื้อจะแข็ง ไม่เละ แต่ไม่กระด้าง โดยทางร้านเลือกใช้ปลาไซส์ 5-8 กิโลกรัม เนื้อถึงจะดีที่สุด และอีกทีเด็ดคือบะเต็งที่จะช่วยทำให้ข้าวต้มอร่อยยิ่งขึ้น เป็นสูตรทำเองกว่า 50 ปีของทางร้าน รสชาติออกหวาน เค็ม แบบโบราณ"ข้าวต้มปลา (เริ่มต้น 60 บาท)""ปลาลวกจิ้ม (150 บาท)" ราดหน้าด้วยบะเต็งอร่อยๆ"ต้มยำหัวปลาใส่พุงไข่ปลา (200 บาท)" เมนูนี้ใส่หัวปลามาทั้ง 2 อย่าง คือ หัวปลากะพงและปลาเก๋า และยังใส่พุงปลา ไข่ปลามาอีก"ร้านข้าวต้มปลาซังฮี้" อยู่ที่เชิงสะพานซังฮี้ ถนนราชวิถี ร้านเปิดนั่งทาน 15.00-23.30 น. (เดลิเวอรี่ถึง 23.00 น.) สอบถามเพิ่มเติม โทร. 06-3232-5671อีกร้านห้ามพลาดในย่านนี้ "ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือเพชรสมร" ที่เปิดมานานเกือบ 20 ปี ด้วยน้ำซุปที่เข้มข้นและรสชาติแซ่บๆ แบบไม่ต้องปรุงเพิ่มโดยทีเด็ดของน้ำซุปจะอยู่ที่ 3 ส่วนด้วยกัน คือ หัวเชื้อหรือน้ำดำ เป็นสูตรเด็ดของทางร้าน, น้ำสต็อกที่เก็บหลังจากขายเสร็จทุกวันเพื่อเอามาเป็นเบสของวันถัดไป, น้ำซุปที่ต้มใหม่ในแต่ละวันซึ่งประกอบไปด้วยกระดูกหมู เครื่องยาจีน และกะทิสด"บะหมี่หมูก๋วยเตี๋ยวเรือน้ำตก (30-50 บาท)""กากหมู (15 บาท)""เกี๊ยวกรอบ (15 บาท)""ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือเพชรสมร" อยู่บนถนนเจ้าพระยาสยาม ก่อนขึ้นสะพานซังฮี้ ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.30-20.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08-9496-3659อิ่มอร่อยกันต่อที่ "ร้านแม่ตุ๊ ข้าวขาหมู ก๋วยจั๊บน้ำข้น เชลล์ชวนชิม" ร้านระดับตำนานกว่า 60 ปี ที่ส่งต่อสูตรความอร่อยมาถึง 3 รุ่นแล้ว และตอนนี้ก็ยังใช้เตาถ่านในการทำน้ำซุปหรือตุ๋นขาหมูอยู่เลย ทีเด็ดของร้านอยู่ที่น้ำซุปเพราะเป็นเบสของทั้งก๋วยจั๊บและขาหมู โดยใช้น้ำต้มของหมูสามชั้นที่เอาไปต้มก่อนเอาไปทำหมูกรอบแล้วใส่สาม เกลอ ใส่ขาหมูลงไป ใส่ผักกาดดองเพื่อไล่ความคาวแล้วเอาไปตุ๋นพร้อมกัน"ก๋วยจั๊บหมูสามเกลอ (60 บาท)""ขาหมู (กับข้าว 60 บาท)""ร้านแม่ตุ๊ ข้าวขาหมู ก๋วยจั๊บน้ำข้น เชลล์ชวนชิม" อยู่ที่ซอยจรัสลวก ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08-3011-8181ปิดท้ายด้วยร้านสตรีทฟู้ด "เจ๊แดงยำมะม่วงพระราม 8" กับคอนเซ็ปต์ยำตามใจปากลูกค้า ไม่ว่าจะเอารสไหนก็สั่งแม่ค้าได้เลย น้ำยำของทางร้านจะรสชาติหวานนำ เค็มน้อย และหอมเพราะใช้น้ำตาลมะพร้าวกับเครื่องอื่นๆ เคี่ยวนาน 3-4 ชั่วโมง และน้ำยำเปรี้ยวด้วยมะนาวสดแท้ เครื่องยำมีให้เลือกมากมาย มีทั้งปูจืด ปูเค็ม ปูแป้น หอยแครง แมงกะพรุน กุ้งสด เป็นต้น มะม่วงที่ใช้ก็เป็นมะม่วงแก้วขมิ้น หรือบางช่วงจะเป็นมะม่วงเดือนเก้า หรือโชคอนันต์แล้วหน้า ทำให้เวลาทานแล้วรู้สึกไม่มียางของมะม่วงเลย"ยำมะม่วงหอยนางรมไข่เยี่ยวม้า (90 บาท)""ยำมะม่วงปูม้าไข่แดงเค็ม (140 บาท)""ร้านเจ๊แดงยำมะม่วงพระราม 8" อยู่ข้างสนามบอลสวนหลวงพระราม 8 ร้านเปิดวันอังคาร-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 17.30-20.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เปิดตั้งแต่เวลา 16.00-20.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08-1441-9732
อีกหนึ่งตำนานความอร่อยย่านโชคชัย 4 "ร้านนิวลูกชิ้นปลานายใบ้" การันตีจากออเดอร์และลูกค้าแน่นๆ เป็นร้านที่เปิดมานานกว่า 23 ปี ทีเด็ดของร้านคือตัวลูกชิ้นปลาที่รับมาจากนายใบ้ซึ่งเป็นเจ้าดังอยู่แล้ว ความพิเศษของลูกชิ้นปลาคือใช้ปลาไซตอ ตัวลูกชิ้นจะเหนียวนุ่มและเด้ง ส่วนหนังปลาก็เอามาชุบแป้งทอดแล้วปรุงรสเพิ่มอีกนิดหน่อยกลายเป็นเมนูซิกเนเจอร์ของร้าน และตัวซอสเย็นตาโฟทางร้านก็ปรุงเองโดยใช้ซอสมะเขือเทศเป็นหลัก"เส้นปลาแห้งต้มยำ (50 บาท)" เส้นปลาของที่ร้านจะเป็นแบบเรียวเล็ก ทำให้เวลาคลุกไปกับเครื่องต่างๆ จะเข้ากันได้ดี"บะหมี่แห้งต้มยำ (40 บาท)" มีทั้งลูกชิ้นปลากลม ปลายอ ฮือก้วย เกี๊ยวปลา ลูกชิ้น กุ้งทอด ส่วนเส้นบะหมี่ก็สั่งทำพิเศษ"เกาเหลาเย็นตาโฟต้มยำ" "ร้านนิวลูกชิ้นปลานายใบ้" อยู่ที่โชคชัย 4 ซอย 2 ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 05.30-15.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08-5553-0182
เปรี้ยวปากตะลุยย่านเยาวราช ย่านที่คึกคักสุดๆ อีกแห่งในกรุงเทพและมีของอร่อยละลานตา เปรี้ยวปากชี้เป้าร้านลับที่ถนนทรงวาด "ร้านก๋วยจั๊บถังไม้ ทรงวาด" เปิดมากว่า 60 ปี เป็นร้านตำนานย่านถนนทรงวาดที่คนย่านนี้รู้จักกันดีที่มาของชื่อร้านมาจากการพักเส้นก๋วยจั๊บที่ต้มแล้วไว้ในถังไม้ซึ่งจะช่วยรักษาความร้อนของเส้นเอาไว้ โดยทำกันมาตั้งแต่รุ่นอากง คนจึงเรียกกันว่าก๋วยจั๊บถังไม้จนติดปาก และน้ำซุปของที่นี่ก็เด็ดไม่แพ้กัน เพราะจะต้มกับเครื่องในด้วยเตาถ่านนาน 2-3 ชั่วโมง ดังนั้นเครื่องในจะต้องสะอาดมากๆ น้ำซุปถึงไม่มีกลิ่นคาว"ก๋วยจั๊บใส่ทุกอย่าง (ธรรมดา 60 บาท/ พิเศษ 70 บาท)""ร้านก๋วยจั๊บถังไม้ ทรงวาด" ตรอกอาเนี๊ยเก็ง ถนนทรงวาด ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 09.00-14.00 น.(หยุดวันอาทิตย์) สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08-4468-1898
ตั่วเจ้ ซีฟู้ดพรีเมี่ยมไซส์ใหญ่จุใจ
ร้านสตรีทฟู้ดลับๆ ย่านพระรามเก้า เป็นร้านอาหารจานเดียวที่ใช้ซีฟู้ดสดๆ ไซส์ใหญ่ๆ กับ "ร้านตั่วเจ้" แค่ชื่อร้านหลายคนก็อาจจะงงกันว่ามาจากไหน คำว่า 'ตั่วเจ้' เป็นคำที่คุณเน็กเจ้าของร้านใช้เรียกคุณแม่ และคุณแม่ก็เป็นคนชอบทำอาหารมาก เวลาทำทานที่บ้านก็จะใช้วัตถุดิบดีๆ แบบจัดเต็ม คุณเน็กจึงเอาสูตรมาจากตั่วเจ้และมีคอนเซ็ปต์ร้านว่า 'เราจะทำทุกจานให้อร่อยเหมือนแม่ทำ' ทางร้านจะรับซีฟู้ดสดๆ มาจากสุราษฎร์แบบวันต่อวัน และคัดไซส์ใหญ่พิเศษ เพื่อมาทำเป็นเมนูสตรีทฟู้ดสุดพรีเมี่ยมให้กับลูกค้า และเสน่ห์อีกอย่างของที่ร้านคือความหอมกลิ่นกระทะในทุกๆ เมนู เพราะทางร้านจะใช้กระทะเหล็กในการปรุงอาหาร"ข้าวตั่วกุ้งไข่ลาวา (245 บาท)" ใช้กุ้งแชบ๊วยไซส์ใหญ่ นำมาผัดกับไข่ข้นสูตรทางร้าน รสชาติกลมกล่อมพอดี"ข้าวผัดตั่วเจ้ (199 บาท)" ทีเด็ดของเมนูนี้อยู่ที่มันกุ้งที่นำลงไปผัดกับข้าว และเครื่องทะเลที่ให้มาแบบเน้นๆ ทั้งกุ้งแชบ๊วยตัวโต หอยเชลล์อวบๆ และเนื้อปูก้อนที่ให้แบบจัดเต็ม แถมยังหอมกลิ่นกระทะอีกด้วย"ข้าวหอยเชลล์ผัดกะเพรา (255 บาท)""ข้าวหมึกผัดพริกเกลือ (175 บาท)" ที่นี่ใช้หมึกกล้วยไซส์จัมโบ้ นำไปผัดแบบถึงเครื่องตามมาลองเมนูซีฟู้ดไซส์ใหญ่จุใจกันได้ที่ "ร้านตั่วเจ้" อยู่ที่พระราม 9 ซอย 49 ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 11.00-21.00 น.(หยุดวันจันทร์) สอบถามเพิ่มเติม โทร. 06-2323-6364
หมึกลุงเดช หมึกย่างน้ำจิ้มแซ่บ ย่านงามวงศ์วาน
วันนี้เอาใจสายแซ่บ สายซีฟู้ด กับสตรีทฟู้ดที่ฮอตที่สุดในย่านงามวงศ์วานตอนนี้ นั่นคือร้าน "หมึกลุงเดช" ที่ใครมางามวงศ์วานต้องมาชิม ร้านเปิดขายอยู่หน้าพันธุ์ทิพย์งามวงศ์วานมากว่า 16 ปีแล้ว ร้านหมึกลุงเดช ฮอตฮิตจนเปิดร้านปุ๊บก็มีคนมารอเข้าคิวเลย วันนึงจึงขายปลาหมึกได้ถึง 100 กิโลกรัมต่อวัน โดยใช้หมึกสดส่งตรงมาจากแพที่จังหวัดปทุมธานี นอกจากหมึกที่สดแล้วน้ำจิ้มก็แซ่บและเด็ดไม่แพ้กัน น้ำจิ้มซีฟู้ดของที่ร้านจะรสชาติจัดจ้าน ใช้เกลือแทนน้ำปลา รสชาติจึงอร่อยกลมกล่อม และถ้าใครไม่ทานเผ็ดก็มีน้ำจิ้มแบบหวานให้เลือกอีกด้วย ที่ร้านมีทั้งปลาหมึกกล้วย ปลาหมึกกระดอง และปลาหมึกอินโด โดยที่ร้านจะใช้ส่วนเนื้อ เอ็น หนวดปลาหมึกกระดอง ปลาหมึกไข่ และไข่ปลาหมึก โดยเฉพาะเอ็นที่เป็นส่วนที่ขายดีที่สุด หมดเร็วที่สุด ใครมาก็ต้องสั่ง ใครที่ชอบเมนูหมึกย่างต้องห้ามพลาดเลย "ร้านหมึกลุงเดช" อยู่ที่ตลาดหน้าพันธุ์ทิพย์ พลาซ่า งามวงศ์วาน ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 16.00-20.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 06-4196-7730
ตรอกหมูกรอบ ร้านลับแต่อร่อยเด็ดย่านจุฬาฯ
สายหมูกรอบจะต้องเลิฟกับร้าน "ตรอกหมูกรอบ" ที่เปิดมานานกว่า 10 ปี โดยใช้หมูกรอบเป็นวัตถุดิบสร้างสรรค์เมนูเด็ดหลากหลายเมนู ด้วยความอร่อยของหมูกรอบที่ทำสดใหม่ทุกวัน ทำให้หนังกรอบและเนื้อนุ่มจนหลายคนติดใจ เดิมทีร้านตรอกหมูกรอบมีแค่ที่นั่งในตรอกและยังไม่มีชื่อร้าน คนที่มาทานจึงเรียกกันว่า 'ตรอกหมูกรอบ' ด้วยความเด็ดของหมูกรอบที่ร้านที่จะทอดใหม่ทุกวัน ทำวันละกว่า 70 กิโลกรัม รับประกันได้ว่าทุกจานจะได้หมูกรอบร้อนๆ สดใหม่แน่นอน "หมูกรอบผัดน้ำจิ้มสุกี้ (50 บาท)" หรือที่เรียกกันว่า 'กรอบกี้' เมนูนี้เกิดจากลูกค้าที่อยากทานแบบราดข้าว ไม่อยากทานผัก จึงกลายเป็นเมนูเด็ด อร่อยๆ แบบนี้ขึ้นมา"ผัดหมื่นลี้หมูกรอบ (50 บาท)" เป็นเมนูขึ้นชื่อของชาวสามย่าน ที่ชื่อนี้เพราะว่าใส่วุ้นเส้นลงไปแล้วยาวต่อกันเปรียบเหมือนเป็นหมื่นๆ ลี้ ผัดรวมกับน้ำพริกเผา, ไข่, หมูสับ และผักคะน้า"ข้าวผัดรถไฟหมูกรอบ (50 บาท)" สมัยก่อนเมนูนี้ใครที่นั่งรถไฟบ่อยๆ ก็คงจะรู้จักกันดีเพราะมีขายบนรถไฟ โดยที่แต่ก่อนจะนำข้าวไปผัดกับซอสเย็นตาโฟทำให้ตัวข้าวเป็นสีชมพู แต่ปัจจุบันปรับเปลี่ยนมาใส่ซีอิ๊วดำแทน"ยำหมูกรอบ (80 บาท)" นำหมูกรอบไปคลุกเคล้ากับน้ำยำรสจัดจ้าน และที่สำคัญร้านจะใช้ซีอิ๊วขาวแทนน้ำปลาเพื่อไม่ให้มีกลิ่นคาว"หมูกรอบผัดพริกเกลือ (80 บาท)" เมนูขึ้นชื่อที่ใส่พริกกระเทียมมาแบบแน่นๆ ตัวหมูกรอบก็ทั้งกรอบและฉ่ำมากตามมาเช็คอินความอร่อยของหมูกรอบได้ที่ "ร้านตรอกหมูกรอบ" อยู่ที่ซอยจุฬาฯ 50 ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-21.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08-7503-3507
ตามมาลิ้มลองความอร่อยระดับมิชลินไกด์ 4 ปีซ้อน อร่อยจนต้องมาซ้ำ "ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่สวนมะลิ" ร้านดังประจำย่านสวนมะลิในตำนานกว่า 60 ปี ความพิเศษของคั่วไก่ที่นี่นอกจากวัตถุดิบแล้ว ยังมีเอกลักษณ์ในการผัดที่ใช้เตาถ่าน ทำให้ได้กลิ่นหอมของเส้นและเครื่องที่ผัด"ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ (40 บาท/พิเศษ 50 บาท)" ใช้เตาถ่านในการคั่วเพื่อให้ได้กลิ่นคั่วกะทะเพื่อเพิ่มความหอมอร่อย เคล็ดลับความอร่อยของทางร้านคือเอาเส้นและไข่ไก่ลงไปคั่วในน้ำมันร้อนๆ จนเส้นกรอบ มีกลิ่นหอม ส่วนเนื้อไก่ก็หมักจนนุ่ม รสชาติกำลังดี"ก๋วยเตี๋ยวคั่วอบไก่ (60 บาท)" อีกหนึ่งเมนูมิชลินไกด์ เมนูนี้จะคล้ายกับก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ แต่หลังจากคั่วเส้นกับไข่เสร็จแล้วจะใส่ไข่ไก่อีกฟองลงไป แล้วปิดฝากระทะเพื่อให้ไข่สุกเยิ้มๆ เปรี้ยวปากไกด์ให้แล้ว คอนเฟิร์มว่าเด็ดมากจริงๆ "ร้านก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่สวนมะลิ สาขาสี่แยกโรงพยาบาลกลาง" อยู่ใกล้สี่แยกโรงพยาบาลกลาง เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 16.30-21.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0-2222-4047
แอนท่าดินแดง ตามสั่งสด แน่น ถึงเครื่อง ในราคาจับต้องได้
"ร้านแอนท่าดินแดง" เปิดมานานกว่า 17 ปี ด้วยฝีมือการผัดไฟลุกของพี่แอนเจ้าของร้าน และวัตถุดิบที่คงคอนเซ็ปต์ สด แน่น ถึงเครื่อง เรียกได้ว่าใช้วัตถุดิบอาหารเหลาแต่ราคาจับต้องได้ง่ายวัตถุดิบของที่ร้านใช้ของสด ใหม่ คุณภาพดี พี่แอนเจ้าของร้านลงมือคัดเอง ส่งมาใหม่ๆ จากแหล่งทุกวัน อาหารของที่ร้านจะเป็นอาหารทะเลสไตล์ไทย-จีน มีทั้งต้ม ผัด แกง ทอด สั่งได้ตามใจที่อยากทานกันเลยทีเดียว"ต้มยำกุ้งแม่น้ำ (3.5 ขีด 600 บาท/ 4 ขีด 680 บาท)" กุ้งแม่น้ำไซส์ใหญ่จากแพกุ้งมหาชัย ส่วนน้ำต้มยำปรุงหม้อต่อหม้อ เน้นเข้มข้นถึงเครื่องต้มยำเมนูเด็ดที่ใครมาก็ต้องสั่ง "กุ้งใหญ่ทอดกระเทียม (300-400 บาท/ ราคาตามน้ำหนัก)" กุ้งลายเสือไซส์ใหญ่ ทอดกระเทียมหอมๆ"ปลาเต๋าเต้ยทอด (680-880 บาท/ ราคาตามน้ำหนัก)" ปลาเต๋าเต้ยตัวใหญ่ส่งตรงมาจากระนอง ทอดในน้ำมันร้อนๆ จนเหลืองกรอบ เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรเด็ดแซ่บๆ"หอยลายผัดพริกเผา (150 บาท)" หอยลายสดๆ ไซส์ใหญ่ ผัดกับน้ำพริกเผาทำเอง"ปูผัดพริกเหลือง (400 บาท)" กรรเชียงปูม้ามาเป็นก้อนๆ ไซส์ใหญ่เนื้อแน่นเต็มคำ ส่งตรงมาจาก จ.สุราษฎร์ธานี ผัดกับพริกเหลืองหอมๆ และเสริมความเผ็ดด้วยพริกขี้หนูตามสั่งตามใจลูกค้า อาหารทะเลสดๆ วัตถุดิบไซส์ใหญ่ มากันได้ที่ "ร้านแอนท่าดินแดง" อยู่หัวมุมปากซอยท่าดินแดง 9 ถนนท่าดินแดง ร้านเปิดวันพุธ-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 11.00-21.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08-1695-0597
"คั่วชามเปล" ร้านก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ที่เสิร์ฟมาในชามรูปทรงเหมือนเปลจึงเป็นที่มาของชื่อ 'คั่วชามเปล' แต่ที่ร้านไม่ได้มีแค่เมนูคั่วไก่ มีทั้งหมู ไก่ หมึก กุ้ง ไข่หมึก ที่เอามาทำก๋วยเตี๋ยวคั่วได้ทั้งหมดเริ่มจากเมนูซิกเนเจอร์ "คั่วไก่ (50 บาท)" ใช้อกไก่ที่หมักกับไข่จนนุ่มมาผัดกับเส้นจนเข้าเนื้อ"คั่วไข่หมึก (80 บาท)" ไข่หมึกมาชิ้นใหญ่ๆ ใส่มาแน่นๆ"คั่วรวมเครื่องใน (90 บาท)" เมนูขายดีของร้านที่รวมเครื่อง ทั้งหมู ไก่ หมึกกรอบ หมึกสด กุ้ง และเครื่องใน"คั่วเบคอน (80 บาท)" ได้ความกรอบและรสชาติเค็มนิดๆ ของเบคอน เข้ากันดีกับเส้นที่กรอบนอกนุ่มหนึบด้านในถ้ามาย่านจรัญฯ ต้องห้ามพลาดกับ "ร้านคั่วชามเปล" อยู่บนถนนจรัญสนิทวงศ์ ซอยอรุณอมรินทร์ 30 ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 16.30-22.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08-1806-4234
บะหมี่ไก่กรอบลาดหญ้า By Noddle Twin
อีกหนึ่งร้านอร่อยย่านวงเวียนใหญ่ "ร้านบะหมี่ไก่กรอบลาดหญ้า By Noddle Twin" ร้านก๋วยเตี๋ยวต้มยำเจ้าดังที่เปิดมากว่า 8 ปี โดยทีเด็ดอยู่ที่น้ำต้มยำรสเด็ดและการผสมผสานวัตถุดิบที่หลากหลาย เช่น ไก่กรอบ, สเต๊กแซลมอน, สเต๊กหมู เป็นต้น ให้เข้ากับต้มยำได้เป็นอย่างดีเริ่มความอร่อยด้วยเมนูซิกเนเจอร์อย่าง "บะหมี่ต้มยำน้ำข้นไก่กรอบ (50 บาท)" ที่จะใช้เนื้ออกมาหมักแล้วทอดแบบไม่อมน้ำมัน กรอบนอกนุ่มใน ส่วนน้ำต้มยำก็ปรุงสดใหม่ทุกชาม"ซุปเปอร์พรีเมียม (100 บาท)" มาพร้อมเครื่องแน่นชาม ทั้งไก่กรอบ หมูชิ้น หมูสับ หมูตุ๋น ลูกชิ้น ไข่ต้ม และเกี๊ยวกรอบ"ซุปเปอร์สเต๊กแซลมอน (159 บาท)" เมนูเกาเหลาต้มยำเข้มข้นเข้ากันดีกับเนื้อแซลมอน"บะหมี่แห้งสเต๊กหมู (60 บาท)" สเต๊กหมูสันนอกหมักจนนุ่มแล้วย่างจนหอม ราดด้วยน้ำซอสฉ่ำๆ มาบนบะหมี่ตามมาลองชิมก๋วยเตี๋ยวต้มยำแบบใหม่ได้ที่ "ร้านบะหมี่ไก่กรอบลาดหญ้า By Noddle Twin" อยู่หน้าวัดบุปผาราม ซ.อรุณอมรินทร์ 5 ถ.อิสรภาพ ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 09-7185-6620
หอยแครงลวก เจ๊ภา สวรรค์ของคนรักหอยย่านวงเวียนใหญ่
ถ้าพูดถึงย่านวงเวียนใหญ่ไม่มีใครไม่รู้จัก "ร้านหอยแครงลวก เจ๊ภา" ที่เปิดมากว่า 40 ปี มีลูกค้าเข้ามาอุดหนุนไม่ขาดสาย เพราะความสดของหอยที่ส่งตรงมาจากเพชรบุรี ด้วยความสดของหอยที่คัดไซส์พิเศษมาเป็นไซส์กลาง มีขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กจนเกินไป และเทคนิคการทำความสะอาดหอยที่จะทิ้งให้คลายดินประมาณ 2 ชั่วโมง จึงเอาน้ำฉีดให้หอยหุบปาก แล้วนำไปใส่ตะกร้าร่อนอีกทีเพื่อความสด สะอาด ซึ่งเป็นหัวใจหลักของทางร้าน"หอยแครงลวก (จานละ 80 บาท/สั่งกลับบ้านถุงละ 100 บาท)" ลูกค้าสามารถเลือกระดับความสุกได้ตามชอบ ทั้งแบบสุก แบบเลือด และแบบกลาง โดยน้ำจิ้มมีให้เลือก 3 แบบ คือ น้ำจิ้มซีฟู้ด น้ำจิ้มหวาน น้ำจิ้มหอยแครง แต่สามารถเลือกน้ำจิ้มได้ 1 ถ้วยต่อจานและถุงเท่านั้นคนรักเมนูหอยตามมาฟินกันได้ที่ "ร้านหอยแครงลวก เจ๊ภา" อยู่ปากซอยลาดหญ้า 1 ถ.ลาดหญ้า สมเด็จเจ้าพระยา ร้านเปิดวันอังคาร-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 16.00-21.00 น. (หยุดวันจันทร์และวันพระใหญ่) สอบถามเพิ่มเติม โทร. 09-0281-9338
เจ๊คิ้ม หมี่กระเฉด ร้านลับย่านตรอกสะพานหัน
ใครจะรู้ว่าย่านตรอกสะพานหัน ริมคลองโอ่งอ่างที่มีสตรีทอาร์ทให้ถ่ายรูปชิคๆ มากมายมีร้านลับซ่อนตัวอยู่อย่าง "ร้านเจ๊คิ้ม หมี่กระเฉด" ที่นำหมี่กระเฉดมาฟิวชั่นกับหลากหลายซีฟู้ดเด็ดๆ ให้เข้ากันได้อย่างไม่น่าเชื่อเริ่มด้วยเมนูซิกเนเจอร์อย่าง "หมี่กระเฉดกุ้งแม่น้ำ เพิ่มหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ (199 บาท/ เพิ่มหอย 2 ตัว 30 บาท)" สูตรผัดหมี่กระเฉดของที่ร้านเป็นสูตรโบราณ ผัดแห้งๆ แล้วขูดเส้นติดกระทะมาด้วย ทำให้ได้อีกหนึ่งเท็กซ์เจอร์ ซีฟู้ดอย่างกุ้งแม่น้ำก็ส่งตรงจากแพกุ้งที่อยุธยา และหากใครอยากเพิ่มวัตถุดิบอะไรก็สามารถสั่งเพิ่มได้ทั้งกุ้ง หอย หมึกไข่ และคอหมูย่าง โดยเสิร์ฟมาพร้อมน้ำจิ้มถึง 2 สูตร คือ สีเขียว จะได้ความแซ่บ และสีแดง จะรสชาติไม่เผ็ดมากอีกหนึ่งเมนูขายดีของร้านที่ห้ามพลาด "หมี่กระเฉดคอหมูย่าง (159 บาท)" คอหมูย่างมาเกรียมกำลังดี หอม มาพร้อมน้ำจิ้มแจ่ว"รวมมิตรคั่วพริกเกลือ (199 บาท)" เมนูนี้รวมซีฟู้ดทั้งกุ้งแม่น้ำ หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ และหมึกไข่ ผัดพริกเกลือแบบแห้งๆ มาราด น่าทานสุดๆมาตามรอยชิมหมี่กระเฉดรสจัดจ้านกันได้ที่ "ร้านเจ๊คิ้ม หมี่กระเฉด" อยู่ริมคลองโอ่งอ่าง ตรอกสะพานหัน ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร 06-1725-6193
เส่ย ร้านอาหารรสชาติจัดจ้านตามแบบฉบับคนเพชรบุรี
อีกหนึ่งร้านเด็ดตามสั่ง การันตีจากนักชิมเพียบ "ร้านเส่ย" กับชื่อเสียงความอร่อยกว่า 30 ปี โดยเฉพาะเมนูเด็ดที่ต้องจองล่วงหน้ากับ 'แก้มปลาทูทอด' และอีกหลายเมนูจัดจ้านแบบถึงพริกถึงเครื่อง'ร้านเส่ย' เกิดจากความชื่นชอบทำอาหารของ เฮียเส่ย ผู้เป็นเจ้าของร้าน จึงมาเปิดร้านของตัวเองโดยสูตรอาหารก็เป็นของเฮียเส่ยเอง ที่เน้นรสชาติจัดจ้านเผ็ดถึงใจตามแบบฉบับของคนเพชรบุรี และล่าสุดยังได้รับรางวัลการันตีความอร่อยในระดับเอเชียจาก Opinionated About Dining (OAD) อันดับที่ 2 ในสาขา The Lists Asia 2021 หมวด Casual อีกด้วยเริ่มด้วยเมนูไฮไลท์ที่ต้องสั่งจองกันล่วงหน้า "แก้มปลาทูทอด" เป็นส่วนหัวของปลาทู โดยทางร้านนำไปทำความสะอาดอย่างดีแล้วนำมาทอดจนเหลืองกรอบ ดังนั้นปลาทู 100 ตัว จะทำเมนูนี้ได้เพียง 8-10 จานเท่านั้น จึงต้องโทรจองกันล่วงหน้า และที่สำคัญทางร้านจำกัดสั่งได้โต๊ะละ 1 จาน เพื่อแบ่งปันความอร่อยให้กับทุกคนได้ทาน"ตับทอดกระเทียม" ตับสดชิ้นใหญ่ คัดพิเศษอย่างดี ผัดกับกระเทียมจนหอม"กากหมูคั่วพริก (120 บาท)" ตัวกากหมูทางร้านเจียวใหม่ทุกวัน นำมาคั่วกับพริกกะเหรี่ยง "กุ้งแช่น้ำปลา (120 บาท)" เป็นกุ้งขาวตัวพอดีคำ ราดด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ดผสมวาซาบิที่ใส่มาแบบเน้นๆ เสิร์ฟมาพร้อมกับกระถินและหอมเจียว "ต้มยำปลาทูสด (แบบหม้อ 240 บาท/แบบถ้วย 160 บาท)" เมนูนี้ใช้ปลาทูสดๆ ส่งตรงจากแม่กลอง น้ำต้มยำเป็นน้ำใส เคล็ดลับความอร่อยของที่ร้านคือจะปรุงต้มยำน้ำมะนาวไว้ก่อน แล้วค่อยใส่ปลาทูทำให้ไม่มีกลิ่นคาว ปิดท้ายของหวานด้วย "โอวถึ้ง (40 บาท)" น้ำแข็งใสโบราณ เป็นน้ำตาลเคี่ยว ใส่เม็ดแมงลัก นมสด หวานหอมชื่นใจ อีกหนึ่งเมนูขนมหวานส่งตรงมาจากเพชรบุรี "ลูกตาลน้ำตาลสด (30 บาท)" ทานพร้อมน้ำแข็งป่น หวานเย็นชื่นใจ แจกพิกัดตามรอยความอร่อยกันได้ที่ "ร้านเส่ย" อยู่ที่หมู่บ้านพิบูลวัฒนา ซ.พิบูลวัฒนา 6 ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 10.30-21.30 น. (หยุดวันเสาร์) สอบถามเพิ่มเติม โทร. 06-1096-1616
เย็นตาโฟโกสัน ก๋วยเตี๋ยวกั้งใหญ่ยักษ์ย่านพัฒนาการ
อีกหนึ่งร้านเอาใจคนชอบทานกั้งกับ "ร้านเย็นตาโฟโกสัน" ที่จัดจ้านในย่านพัฒนาการ เพราะความสด ความใหญ่ของกั้งที่เป็นวัตถุดิบหลัก และรสชาติเย็นตาโฟแบบโบราณที่ใครมาทานก็ต้องติดใจเคล็ดลับความอร่อยของร้านเย็นตาโฟโกสันอยู่ที่สูตรน้ำซอสเย็นตาโฟของอากง ที่สืบทอดกันมาในครอบครัวกว่า 30 ปี รสชาติจัดจ้านตามสไตล์จีนไหหลำ ทานแบบแห้งก็จะได้รสชาติซอสที่เข้มข้นชัดเจน หรือทานแบบน้ำก็กลมกล่อม ซดกันได้แบบคล่องคอ ส่วนไฮไลท์อย่างกั้งก็ส่งตรงมาจากจังหวัดสตูล คัดไซส์มาโดยเฉพาะ ทุกตัวมีความยาวถึง 9 นิ้วเลยทีเดียว"เย็นตาโฟแห้งกั้ง (ไซส์ XL 320 บาท/ ไซส์ L 250 บาท)" "เย็นตาโฟน้ำกั้ง (ไซส์ XL 320 บาท/ ไซส์ L 250 บาท)" "เย็นตาโฟหม้อไฟกั้ง XL (890 บาท)" "กั้ง XL ทอดกระเทียม (180 บาท)" ตามรอยมาชิมเย็นตาโฟกั้งไซส์ใหญ่กันได้ที่ "ร้านเย็นตาโฟโกสัน" อยู่ที่ซอยพัฒนาการ 46 ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 09-1415-5915
ข้าวแกงปักษ์ใต้เลิศรส อาหารใต้หรอยๆ ย่านอ่อนนุช
ใครคิดถึงอาหารใต้หรอยๆ แบบถึงเครื่องต้องมาที่ "ร้านข้าวแกงปักษ์ใต้เลิศรส" ร้านข้าวแกงที่ซ่อนตัวอยู่ในซอยอ่อนนุช 44 เป็นอีกหนึ่งร้านเด็ดที่คนย่านนี้รู้จักกันดี ข้าวแกงปักษ์ใต้ของที่ร้านเป็นข้าวแกงปักษ์ใต้แท้ๆ จากเมืองตรัง อาหารของที่ร้านมีหลากหลาย ประมาณ 30 กว่าเมนู เสน่ห์ของอาหารใต้สูตรเมืองตรังแท้ๆ อยู่ที่ความอร่อยของพริกแกง โดยที่ร้านจะใช้พริกแกงทำเองสูตรของทางร้าน"ปลาแดงทอดขมิ้น" ที่ร้านจะเอาปลาแดงมาหมักกับขมิ้นขาวที่ปั่นมาแบบหยาบๆ ปรุงรสด้วยเกลือนิดหน่อย หมักไว้ 1 คืน ทอดด้วยน้ำมันร้อนๆ กรอบๆ น่าทาน"ผัดเผ็ดหมูสะตอ" เมนูนี้ที่ร้านจะเลือกหมูในส่วนติดมันนิดนึง พอเวลาผัดกับเครื่องแกงเผ็ด เวลาทานจะเข้าเนื้อดีมาก"แกงคั่วซี่โครงหมู" เมนูขายดีของที่ร้าน หั่นซี่โครงหมูชิ้นพอดีคำ ต้มจนซี่โครงหมูนุ่มกำลังดี แล้วผัดกับพริกแกงจนเริ่มหอม แล้วใส่กะทิลงไป ปรุงรสแล้วเคี่ยวต่อจนได้น้ำแกงเข้มข้น โรยด้วยข่าซอยและใบมะกรูด"แกงปลาดุกใบยี่หร่า" และอาหารใต้จะขาดเมนูนี้ไปไม่ได้ "แกงไตปลา" ทางร้านจะเคี่ยวไตปลากับเครื่องข่าตะไคร้ข้ามวัน ใช้เนื้อปลาโอย่าง สูตรของทางร้านจะใส่เม็ดขนุนด้วยเพื่อเพิ่มความมันหรอยแรงกับหลากหลายเมนูอาหารใต้ได้ที่ "ร้านข้าวแกงปักษ์ใต้เลิศรส" อยู่ที่ ซ.อ่อนนุช 44 ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 06.30-15.00 น. (หยุดทุกวันอาทิตย์) สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08-1917-9095
ก๋วยเตี๋ยวหลอดทรงเครื่อง ตลาดพลู
"ร้านก๋วยเตี๋ยวหลอดทรงเครื่อง ตลาดพลู" เปิดมากว่า 7 ปี โดยสูตรก๋วยเตี๋ยวหลอดเป็นสูตรดั้งเดิมจากเยาวราช เน้นใช้วัตถุดิบที่สดและดี แป้งก๋วยเตี๋ยวก็สั่งทำมาอย่างดีและต้องมีกุ้งแห้งผสมอยู่ด้านในเส้นเพื่อเพิ่มความหอมและรสสัมผัสในการทาน เครื่องทุกอย่างทำเองสดใหม่วันต่อวัน"ก๋วยเตี๋ยวหลอดทรงเครื่อง (40-50 บาท)" จัดเต็มเครื่องแน่นๆ ทั้งหมูสันนอกทอด กุนเชียง กุ้งแห้ง ไชโป้ เต้าหู้ และไข่พะโล้ตามมาทานก๋วยเตี๋ยวหลอดทรงเครื่องอร่อยๆ กันได้ที่ "ร้านก๋วยเตี๋ยวหลอดทรงเครื่อง ตลาดพลู" อยู่ใต้สะพานตลาดพลู ข้างร้านกาแฟสุริยา ร้านเปิด 09.00-16.30 น. (หยุดทุกวันอังคารและวันศุกร์) สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08-4657-2979
สรินทร์ทิพย์ ขนมเบื้องไทยตลาดพลู
ใครมาตลาดพลูก็ต้องนึกถึง "ร้านสรินทร์ทิพย์ ขนมเบื้องไทยตลาดพลู" ร้านเก่าแก่ที่ขายมาตั้งแต่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นจนมาถึงรุ่นที่ 4 ในปัจจุบัน ซึ่งวิธีการทำขนมเบื้องยังเป็นแบบโบราณอยู่ โดยขนมเบื้องที่ร้านจมีให้เลือก 2 แบบ คือแบบบางกรอบ กับแบบใส่ไข่ ข้างในทาน้ำตาลมะพร้าวแทนครีม และลูกค้าสามารถเลือกไส้ได้ว่าจะเอาหวานหรือเค็ม ตัวแป้งใช้เป็นแป้งถั่วเขียวเพื่อให้มีความหอมเฉพาะตัวและกรอบอร่อย"ขนมเบื้องแป้งบางกรอบ (ไส้หวาน/ไส้เค็ม ชิ้นละ 5 บาท)" "ขนมเบื้องใส่ไข่ (ไส้หวาน/ไส้เค็ม ชิ้นละ 15 บาท)""Set Homemade (กล่องละ 120 บาท)" เซตนี้สามารถมาทำ DIY ทานเองที่บ้านได้ ไส้ข้างในจะคละแบบหวานกับเค็มแจกพิกัดอร่อยฟินกับ "ร้านสรินทร์ทิพย์ ขนมเบื้องไทยตลาดพลู" อยู่ที่ใต้สะพานตลาดพลู ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 08.00-22.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08-9801-3477
บะหมี่เป๊าะ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำหมูทะลัก
"บะหมี่เป๊าะ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำหมูทะลัก" เครื่องแน่นๆ หมูสับเน้นๆ น้ำซุปหอมเข้มข้น เครื่องทำเอง คั่วเองทุกอย่าง รับประกันความสดใหม่ร้านบะหมี่เป๊าะ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำหมูทะลัก เกิดจากความชอบทานต้มยำของ 'พี่เติ้ล' เจ้าของร้าน จึงตั้งใจทำสิ่งที่ชอบให้คนอื่นได้ทาน และเส้นบะหมี่เป๊าะ ก็มาจากเพื่อนที่มีเครื่องทำบะหมี่อยู่แล้ว จึงให้ทำตามสูตรที่ให้ไปซึ่งใช้ไข่ 6 ฟองต่อแป้ง 1 กิโลกรัม คือไข่เน้นๆ โดยเส้นบะหมี่เป๊าะจะทำสดใหม่วันต่อวัน ไม่มีสารกันบูด ไม่มีสารกันเชื้อรา นอกจากนี้น้ำซุปของทางร้านไม่ใส่ผงชูรส น้ำซุปหวานจากกระดูกแท้ๆ โดยการเคี่ยวน้ำซุปหัวเชื้อจะใช้เตาถ่านและใช้ไฟกลางในการเคี่ยวกระดูกหมูนานกว่า 12 ชั่วโมง หลังจากนั้นจึงเติมน้ำและเล้งกับคาตั๊งประมาณ 7 กิโลกรัม และใส่สามเกลอลงไปปรุงเพิ่มจึงได้น้ำซุปสูตรเด็ดออกมา ซึ่งจะไม่ได้อร่อยในคำแรกแต่จะอร่อยขึ้นเรื่อยๆ เพราะเป็นน้ำไขกระดูกเลยเริ่มด้วยเมนูซิกเนเจอร์อย่าง "ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ (55 บาท)" บะหมี่เป๊าะเป็นบะหมี่ไข่เส้นใหญ่ เน้นไข่ ไม่เน้นแป้ง ทำให้เส้นเหนียวนุ่ม และหมูบะช่อที่ล้นชามโดยใช้สันคอหมูหมักมาทำ นอกจากนี้ยังมีลูกชิ้นกุ้ง ลูกชิ้นปลา ตับ และไอ้เข้ ซึ่งเป็นสะโพกหมูชิ้นใหญ่อีกด้วย"เกาเหลาน้ำใส (55 บาท)" หอมกลิ่นเตาถ่านของน้ำซุปกระดูกหมู มาชิมบะหมี่เป๊าะ เส้นเหนียวนุ่ม ไข่เน้นๆ และความแซ่บเด็ดของต้มยำได้ที่ "ร้านบะหมี่เป๊าะ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำหมูทะลัก" อยู่ที่ ถ.พุทธบูชา ตรงข้ามสนามแบดมินตัน PY Sport Club ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-12.30 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 09-2440-3535
ฉ่อยเป็ดย่าง ตำนานความอร่อยย่านพุทธมณฑลสาย 2
อีกหนึ่งตำนานความอร่อยย่านพุทธมณฑลสาย 2 "ร้านฉ่อยเป็ดย่าง" ร้านอร่อยริมทางที่การันตีด้วยรางวัลบิบ กูร์มองด์ จากมิชลินไกด์ ถึง 3 ปีซ้อน ด้วยสูตรความอร่อยที่ส่งต่อมากว่า 60 ปี กับหนังเป็ดกรอบๆ เนื้อฉ่ำ"ร้านฉ่อยเป็ดย่าง" นอกจากเป็ดย่างที่เป็นสินค้าหลักแล้ว ยังมีทั้งหมูแดง หมูกรอบ และเมนูเส้นต่างๆ เช่น ลูกชิ้นปลา ฮือก้วย ลูกชิ้นกุ้ง ซึ่งทางร้านทำเองทั้งหมด รับรองว่าทุกเมนูใช้วัตถุดิบสด ใหม่ สะอาดแน่นอนอาหารของที่ร้านเป็นสไตล์จีนกวางตุ้ง โดยให้ความสำคัญกับวัตถุดิบตั้งแต่การคัดเลือกขนาดของเป็ด การหมักเครื่องเทศตามสูตรของทางร้าน และเทคนิคการใช้ไฟในการย่าง ทำให้เป็ดย่างออกมาหนังกรอบ เนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำ ตามแบบฉบับของฉ่อยเป็ดย่าง และราดด้วยน้ำซอสสูตรลับของทางร้านเริ่มด้วยเมนูขายดีของทางร้าน "ข้าวหน้าเป็ดย่าง (45 บาท)" เมนูนี้เลือกใช้เป็นเป็ดเชอร์รี่คัดไซส์มาอย่างดี เพราะเป็ดเชอร์รี่จะมีมันที่กำลังดี และเนื้อแน่นกว่าสายพันธุ์อื่น "ก๋วยเตี๋ยวต้มยำน้ำข้นเป็ดย่าง (50 บาท)" น้ำต้มยำรสจัดจ้าน ทานคู่กับเส้นบะหมี่ที่เป็นเส้นเล็กสไตล์ฮ่อง ตัวเส้นนุ่มหนึบหนับกำลังดี"บะหมี่เกี๊ยวเป็ดย่าง หมูกรอบ (85 บาท)" มาทานเป็ดย่างอร่อยๆ กันได้ที่ "ร้านฉ่อยเป็ดย่าง" อยู่ถนนพุทธมณฑล สาย 2 อยู่ก่อนถึงปั๊มเชลล์ ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.30-17.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 09-5264-2226
"ร้านแป๊ะโจ๊กหม้อทองเหลือง 38 ปี" ร้านโจ๊กเจ้าดังย่านบางโพ การันตีความอร่อยด้วยรางวัลบิบ กูร์มองด์ 2021 เอกลักษณ์อยู่ที่เนื้อโจ๊กที่เนียนนุ่มในหม้อทองเหลือง ด้วยสูตรลับความอร่อยจากอากงที่ส่งต่อมาจากรุ่นสู่รุ่น เคล็บลับความอร่อยของตัวโจ๊กคือการใช้ข้าวหอมมะลิอย่างดีทั้งเมล็ด แช่น้ำทิ้งไว้ 3-4 ชั่วโมง และต้มน้ำซุปทิ้งไว้ 1 คืนจนออกมาเป็นหัวโจ๊ก โดยตอนเช้าจะเอาหัวโจ๊กมาผสมกับน้ำซุปเคี่ยวใหม่ ใช้หม้อทองเหลืองต้มหม้อต่อหม้อ รับรองว่าร้อนยันคำสุดท้าย"โจ๊กปลากะพง (60 บาท/ ใส่ไข่ 70 บาท)""โจ๊กหมูและกระดูกอ่อน ไข่ระเบิด (70 บาท)" ที่เรียกว่าไข่ระเบิดเพราะทางร้านจะตีไข่ลงไปผสมกับเนื้อโจ๊ก ทำให้เนื้อโจ๊กเนียนๆ ผสมกับไข่แดงนวลๆ"กระเพาะปลาน้ำแดงเห็ดหอม (70 บาท)" แน่นไปด้วยไข่นกกระทา และกระเพาะปลาไซส์ใหญ่ส่งตรงจากเยาวราช"ข้าวต้มแห้งทะเล (80 บาท)" เมนูนี้จะนำเครื่องทะเล ไข่ไก่ และเครื่องข้าวต้มมาผัดจนเข้ากัน ก่อนจะนำไปโปะลงบนข้าวสวยร้อนๆ เสิร์ฟพร้อมน้ำซุป และเต้าเจี้ยวบด น้ำจิ้มซีฟู้ดให้เอาไว้ตัดเลี่ยนด้วยมาทานโจ๊กร้อนๆ เนื้อเนียนๆ กันได้ที่ "ร้านแป๊ะโจ๊กหม้อทองเหลือง 38 ปี" อยู่หน้าปากซอยประชาราษฎร์ สาย 1 ซอย 20 ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0-2586-8852
เจริญแสงสีลม ขาหมูเจ้าดังย่านบางรัก
ร้านตำนานย่านบางรัก การันตีมิชลินไกด์ 4 ปีซ้อนกับ "ร้านเจริญแสงสีลม" ทีเด็ดอยู่ที่น้ำขาหมูไร้มัน รสชาติเข้มข้นกลมกล่อม แถมมีครบทุกส่วนของขาหมู ตุ๋นมาจนเปื่อยนุ่มกำลังดี รับประกันว่าทานแล้วได้คอลลาเจนเน้นๆ แน่นอนร้านเจริญแสงสีลม ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2505 ตั้งอยู่ด้านข้างโรงพยาบาลเลิดสิน พอ พ.ศ. 2513 ก็ย้ายข้ามฝั่งมาเป็นฝั่งที่สร้างใหม่ซึ่งเมื่อก่อนเป็นคลองสีลม ก่อนจะเปลี่ยนชื่อมาเป็นขาหมูเจริญแสงสีลม เริ่มแรกสูตรขาหมูเป็นของคุณปู่ ก่อนคุณพ่อจะพัฒนาสูตรปรับมาเรื่อยๆ จนได้รสชาติในปัจจุบัน ขาหมูของที่ร้านเป็นสไตล์จีนแต้จิ๋วที่ประยุกต์ทั้งไทยและฝรั่ง รสชาติจะไม่หวานโดนและเค็มโดด ยิ่งทานคู่กับน้ำส้มที่มีทั้งกระเทียมสด พริกเขียว พริกแดง จะช่วยเสริมรสชาติกันมากยิ่งขึ้นขาหมูของที่ร้านจะรับมาโรงงานแล้วมาทำความสะอาดก่อนหนึ่งรอบ แล้วมาตัดเป็นส่วนๆ โดยทางร้านจะเลือกใช้เฉพาะขาหน้าและเครื่องในต่างๆ แล้วมาต้มเนื้อดิบที่เตรียมไว้ข้ามวันข้ามคืน หลังจากนั้นใส่เครื่องในต้มแช่น้ำหมูเอาไว้ให้ซึมเข้าไปในเนื้อ "ข้อคากิ (2 ชิ้น 60 บาท/ 4 ชิ้น 120 บาท)" หรือที่เรียกสั้นๆ ว่าข้อกิ เป็นส่วนที่อยู่ด้านบนคากิ เนื้อจะน้อย เน้นหนังและเอ็น"เนื้อหนัง (เริ่มต้น 50 บาท)" "เครื่องใน (เริ่มต้น 50 บาท)"ตามมาทานขาหมูอร่อยๆ กันได้ที่ "ร้านเจริญแสงสีลม" อยู่ถนนสีลม ซอยเจริญกรุง 49 ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.30-13.30 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0-2234-8036
ยั่วน้ำลายกับความแซ่บของเครื่องจิ้มและผลไม้เด็ดๆ จาก "ร้านนวลนาง" ที่เหมือนยกสวนผลไม้มาเอาใจสายแซ่บที่ย่านดินแดง พร้อมน้ำจิ้มสูตรเด็ดกว่า 10 แบบ ทั้งน้ำปลาหวานกุ้งจัมโบ้ ปลาร้าโหน่ง ข้าวคั่วหอม กะปิหวาน กะปิแห้ง น้ำปลาหวานผสมกะปิแห้ง พริกเกลือ และปลาร้าแจ่วบอง เป็นต้น รับประกันความแซ่บนอกจากน้ำจิ้มเด็ดๆ แล้วผลไม้ที่ใช้ก็เป็นผลไม้พื้นบ้านของทางอีสาน โดยจะเป็นผลไม้ตามฤดูกาล เช่น ตะคร้อ ส้มสร้อย ซึ่งหายากมากๆ ต้องเป็นคนพื้นบ้านเท่านั้นจึงจะได้ทานกัน แต่ที่ร้านนวลนางนำมาให้คนทั่วไปได้ลิ้มรสกัน และอีกหนึ่งไฮไลท์ของผลไม้คือ กระท้อนลูกใหญ่ไซส์จัมโบ้ที่ทางร้านคัดไซส์ขนาด 8 ขีดถึง 1 กิโลกรัม เป็นกระท้อนพันธุ์ปุยฝ้าย เนื้อจะฟู นุ่ม หวาน และเปรี้ยวน้อยมากเริ่มด้วยเมนูเด็ดซิกเนเจอร์ของร้าน "กระท้อนทรงเครื่องสูตรโบราณ (150 บาท)""กระท้อนน้ำปลาหวานกุ้งจัมโบ้ (150 บาท)" มีทั้งกุ้งไซส์ใหญ่ กะปิใช้อย่างดี มีกลิ่นหอม และใส่หอมมาเยอะมากๆ แต่เมนูกระท้อนจะมีแค่ช่วงเดือนเมษายนถึงสิงหาคมเท่านั้น"สละน้ำปลาหวานกุ้งจัมโบ้ (150 บาท)" สละสามารถสั่งทานได้ตลอดทั้งปี ราดด้วยน้ำปลาหวานกุ้งจัมโบ้ที่ใส่พริกมาทุกชนิด ทั้งพริกป่น พริกขี้หนูสวน พริกจินดา"ตะลิงปลิงและกะปิหวาน (100 บาท)" ทางร้านใช้กะปิอย่างดี เคี่ยวกับน้ำตาลปี๊บและพริกป่น จนเนื้อนวล เข้มข้น โดยตะลิงปลิงที่นี่จะมีขายตลอดทั้งปีอีกเมนูทีมีขายทั้งปีคือ "มะม่วงเบาและกะปิแห้ง (120 บาท)" ทางร้านจะขายมะม่วงหมุนเวียนไปเรื่อยๆ ในช่วงนี้จะเป็น โชคอนันต์และน้ำดอกไม้แชร์พิกัดความแซ่บกับ "ร้านนวลนาง" อยู่ ซ.เปรมสมบัติ ดินแดง ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 09-9929-6665
ก๋วยเตี๋ยวเรือสามแซ่บ สูตรโบราณจากอยุธยา
"ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือสามแซ่บ" กับก๋วยเตี๋ยวเรือเผ็ดพ่นไฟที่น้ำซุปหอมเครื่องยาจีน สูตรโบราณจากอยุธยาที่ปรุงมาจัดจ้านเผ็ดซี๊ดถึงใจก๋วยเตี๋ยวเรือของที่ร้านเป็นสูตรโบราณจากอยุธยา ก๋วยเตี๋ยวเรือจะอร่อยต้องอยู่ที่พริก โดยทางร้านจะคั่วพริกเองทุกวันให้ได้ความเผ็ด หอม กินแล้วไม่ขมปากไม่ขมลิ้น เป็นความเผ็ดระดับพ่นไฟ น้ำซุปก๋วยเตี๋ยวของทางร้านยังใช้เครื่องหอมยาจีนถึง 8 ชนิด เคี่ยวกับกระดูกหมูกว่า 2 ชั่วโมง และที่ขาดไม่ได้น้ำซุปสูตรของทางร้านจะใส่กะทิเพื่อเพิ่มความมัน หอม เข้มข้นอีกด้วย"หม้อไฟสามแซ่บ (139 บาท)" ก๋วยเตี๋ยวเรือในหม้อไฟไซส์ใหญ่ เลือกไส้ได้ 2 แบบ (เส้นเล็กและเส้นหมี่) จัดเต็มในหม้อไฟ มีทั้งหมูหมัก ตับแป้ง และลูกชิ้นหมู"ก๋วยเตี๋ยวเรือ (ธรรมดา 40 บาท/ พิเศษ 50 บาท)" "รวมลวกจิ้ม (85 บาท)" รวมมาทั้งสะโพกหมูหมัก ตับหมู ลูกชิ้น เสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำจิ้มพริกคั่วที่รสชาติเผ็ดร้อนไม่แพ้ก๋วยเตี๋ยวเลยทีเดียว"เส้นบะหมีน่เหลืองสามแซ่บแห้ง ((ธรรมดา 40 บาท/ พิเศษ 50 บาท)" "ยำกากหมูเจียงฮาย (35 บาท)" คือการเอาหมูทอดเจียงฮาย คลุกกับน้ำยำพริกคั่ว เป็นเมนูทานเล่นที่เพลินมากๆ มาแซ่บกับก๋วยเตี๋ยวเรือแบบนี้ได้ที่ "ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือสามแซ่บ" ศรีนครินทร์ 40 ซ.สุภาพงษ์ 3 แยก 6 ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.30-21.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08-1425-6545
ปากปลาร้า ส้มตำแซ่บนัวย่านรัชดา
"ปากปลาร้า" ร้านส้มตำน้องใหม่ย่านรัชดา แค่ชื่อก็การันตีเลยว่าปลาร้านัวแน่นอน ที่สำคัญมีหลายเมนูไม่ได้หากินง่ายๆ สายอาหารอีสานเตรียมมาแซ่บกันได้เลยร้านปากปลาร้าทีเด็ดก็ต้องยกให้กับปลาร้าที่ปรุงเอง สะอาด ไม่เหม็น ไม่คาว ใช้ปลากระดี่ น้ำปลาอย่างดี ใส่สมุนไพรอย่างข่า ตะไคร้ เคล็บลับที่สุดคือใช้ใบน้อยหน่าดับกลิ่น ทำให้น้ำปลาร้าของร้านไม่เหมือนที่ไหน "อภิมหาตำปากปลาร้า (1,111 บาท)" เป็นชุดที่รวบรวมของอร่อยไว้ในถาดเดียว ทั้งส้มตำ, แกง, แซลมอน, ปลานิลทอด, หอยแครง, หอยแมลงภู่, หอยโข่ง และคอหมู่ย่าง ซึ่งส้มตำสามารถเลือกได้ว่าจะเป็นตำไทย, ตำลาว หรือตำหลวงพระบาง ส่วนแกงก็สามารถเลือกได้ว่าจะเป็นแกงเห็ดหรือแกงหน่อไม้"ตำอะโวคาโด (79 บาท)" ตำมาแบบตำไทย หอมพริก หอมถั่ว"ตำซั่วทะเลไข่เยี่ยวม้า (129 บาท)" จัดเครื่องมาแน่นๆ ทั้งกุ้ง หมึก เป็นตำซั่วใส่ขนมจีน นัวปลาร้า เสิร์ฟมาพร้อมกับไข่เยี่ยวม้า"ตำด้องแด้ง กุ้งดิบ หอยแครง (79 บาท)" เมนูนี้ใส่ทั้งกะหล่ำ ผักกระเฉด ถั่วงอก เสิร์ฟมาพร้อมกุ้งดิบและหอยแครงลวกคออาหารอีสานแซ่บๆ ปลาร้านัวๆ ต้องมาชิมกันที่ "ร้านปากปลาร้า" ซ.รัชดาภิเษก 7 แยก 15 ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 12.00-22.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 06-1659-6669
ข้าวปลาแกะ เมนูสุดฮอตในโซเชียล
"ร้านข้าวปลาแกะ" ร้านสุดฮอตในโซเชียลที่หลายคนมาต่อคิวรอทานกันมากมาย ร้านนี้เปิดมากว่า 20 ปี แต่คนเพิ่งมาเยอะช่วงนี้ เพราะกระแสจากคลิปในโซเชียลที่ลูกค้าถ่ายลง คนจึงแห่มาตามทานกันเยอะมาก จนทอดตอนนี้ต้องทอดปลากว่าวันละ 500 ตัว และทีเด็ดของร้านนอกจากปลาเน้นๆ แล้วยังมีพริกน้ำปลา ที่ใส่ทั้งพริก หอมแดง กระเทียม ผัดชีลงไปด้วย สีสันดูน่าทานมากๆ"ข้าวปลานิลทอด (45 บาท)" มาตามรอยกันได้ที่ "ร้านข้าวปลาแกะ" อยู่ซอยสุขุมวิท 42 เข้าซอยแสงจันทร์ ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-13.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08-9448-4793
อีกหนึ่งร้านใหม่ที่ได้รางวัลบิบ กูร์มองด์ ปี 2565 "ร้านกล้วยแขก พระราม 5" เจ้าดังย่านบางกรวย ที่เปิดมานานกว่า 12 ปี ด้วยคอนเซ็ปต์อยากให้ลูกค้าได้ทานของอร่อย อย่างน้ำมันก็เปลี่ยนใหม่ตลอด วัตถุดิบพวกกล้วย เผือก มันก็คัดอย่างดี ใส่ใจในคุณภาพ และที่สำคัญใครมาทานกล้วยทอดของทางร้านหายห่วงเรื่องอมน้ำมันแน่นอน เพราะทางร้านใช้เครื่องสลัดน้ำมันเพื่อไม่ให้อมน้ำมันอีกด้วย"กล้วยทอดสลัดน้ำมัน (7 ชิ้น 25 บาท)" เลือกใช้กล้วยน้ำว้าที่สุกกำลังดี ไม่แข็ง และไม่เละจนเกินไป แล้วแป้งชุบทอดก็คือทีเด็ด มีใส่มะพร้าวขูดลงไปเพิ่มเท็กซ์เจอร์ด้วย"ไข่นกกระทาทอด (14 ชิ้น 25 บาท)" มีให้เลือก 2 แบบคือ มันม่วง กับ มันเทศ"เผือกทอด มันทอด (7 ชิ้น 25 บาท)" ทานคู่กับน้ำจิ้มสูตรของทางร้านที่จะคล้ายๆ กับอาจาดแต่ใส่ถั่วลงไปด้วยอิ่มอร่อยกับกล้วยทอดแบบไม่อมน้ำมันในราคาสบายกระเป๋ากันได้ที่ "ร้านกล้วยแขก พระราม 5" อยู่แยกบางสีทอง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08-3818-5566
เหล่าเฮงลูกชิ้นปลา สาขาพุทธมณฑลสาย 3
"เหล่าเฮงลูกชิ้นปลา สาขาพุทธมณฑลสาย 3" ร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาสูตรต้นตำรับที่เปิดบริการมาแล้วกว่า 10 ปี ไฮไลต์ของร้านจะเน้นความสดใหม่ของลูกชิ้นปลา เพราะทางร้านมีโรงงานผลิตเองทั้งหมด ทำสดใหม่ทุกวัน และมีการคัดสรรวัตถุดิบอย่างดี ส่งตรงจากเยาวราชแท้ ๆ ทั้งเส้นบะหมี่เป๊าะ ตั้งไฉ่ และจิ๊กโฉ่ว เพื่อความเป็นออริจินัล แบบก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาเยาวราชมากยิ่งขึ้นในส่วนของเมนูอาหารทางร้านมีให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นก๋วยเตี๋ยว ของทานเล่น ลวกจิ๋มต่าง ๆ รวมถึงเครื่องดื่มในราคาย่อมเยาว์ สำหรับใครที่ติดใจในรสชาติและความสดใหม่ของลูกชิ้นร้านนี้ ทางร้านยังมีบริการจับเซตชุดลูกชิ้นต่าง ๆ ให้กลับไปทานที่บ้านได้อย่างจุใจอีกด้วยTop list เมนูขายดี ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่เย็นตาโฟ ความพิเศษอยู่ที่ซอสเย็นตาโฟ ที่มีพริกขี้หนูปั่นผสมเพื่อให้ได้ความเผ็ดร้อน ทานพร้อมกับลูกชิ้นปลา ลูกชิ้นปลารักบี้ทอด ฮื่อก๊วย เต้าหู้ทอดและเผือกทอด เรียกได้ว่าอร่อยครบจบในจานเดียวเมนูต่อไปบะหมี่แห้ง เมนูซิกเนเจอร์สูตรเด็ดต้นตำรับจากเยาวราช ใช้เส้นบะหมี่เป๊าะเพิ่มรสชาติด้วยการคลุกเคล้ากับซอสจิ๊กโฉ่ว เสิร์ฟพร้อมกับน้ำซุปใสร้อน ๆนอกจากนี้ยังมีเมนูทานเล่นกินเพลิน ๆ หลายเมนู เช่น ลูกชิ้นกุ้งทอด สีเหลืองกรอบนอกนุ่มใน เนื้อกุ้งเต็ม ๆ คำ และเผือกทอด ที่เป็นซิกเนเจอร์ของทางร้านทานคู่กับน้ำจิ้มบ๊วยสูตรเด็ดที่ทางร้านเคี่ยวเอง ทานคู่กันแล้วอร่อยฟินสุด ๆ"ร้านเหล่าเฮงลูกชิ้นปลา สาขาพุทธมณฑลสาย 3" ตั้งอยู่ที่ ถนนพุทธมณฑลสาย 3 มุ่งหน้าเพชรเกษม ไฟแดงที่ 4 ตรงจุดยูเทิร์น ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่ 08.30-17.00 น.สอบถามเพิ่มเติมโทร. 09-0892-3341
Follow us on INSTAGRAM